ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คลังย้ำอีกรอบ! เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เหมาะสมช่วยลดค่าครองชีพ

เศรษฐกิจ
28 ส.ค. 66
17:01
623
Logo Thai PBS
คลังย้ำอีกรอบ! เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เหมาะสมช่วยลดค่าครองชีพ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"คลัง" ยันอีกรอบเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เหมาะสม ชี้ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน ห่วงข้อเสนอให้ปรับขึ้นภาษี เพื่อนำมาใช้เป็นเงินออมในวัยเกษียณจะกระทบเศรษฐกิจ ยังต้องศึกษารอบด้าน

วันนี้ (28 ส.ค.2566) นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 และคาดว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก

โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว และอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย เนื่องจากแรงกดดันจากราคาสินค้าในหมวดพลังงานได้คลี่คลายลง ประกอบกับในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าประมาณการและสูงกว่าช่วงเดียวกับปีก่อนถึงร้อยละ 7.6 และ 5.2

การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ร้อยละ 7 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจให้กับภาคเอกชน จะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงก่อนสิ้นเดือน ท่ามกลางข่าวปรับ VAT

ประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงก่อนสิ้นเดือน ท่ามกลางข่าวปรับ VAT

ประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงก่อนสิ้นเดือน ท่ามกลางข่าวปรับ VAT

โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ฐานะการคลังในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่มั่นคงและเพียงพอต่อการดำเนินนโยบายต่าง ๆ รวมถึงการจัดสรรสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีกองทุนผู้สูงอายุที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นทุนใช้จ่ายเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม และสนับสนุนผู้สูงอายุ

รวมถึงมีการเก็บเงินบำรุงกองทุนผู้สูงอายุจากภาษีสรรพสามิตสินค้าสุราและยาสูบในอัตราร้อยละ 2 โดยปีงบประมาณละไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2561  เพื่อนำเงินกองทุนผู้สูงอายุไปจัดสรรเป็นเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม

สำหรับข้อเสนอให้ปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อนำมาใช้เป็นเงินออมในวัยเกษียณให้แก่ประชาชน เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีฐานการบริโภคที่มีความสัมพันธ์กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มย่อมส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งผลของการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มทำให้ระดับราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อำนาจการซื้อของประชาชนลดลง

ดังนั้น การปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้าน ตลอดจนพิจารณาในช่วงเวลาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 กำหนดว่า การกันเงินรายได้เพื่อให้หน่วยงานของรัฐนําไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานนั้น หรือเพื่อการหนึ่งการใดเป็นการเฉพาะจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะอาศัยอำนาจตามกฎหมาย ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหารือถึงความเป็นไปได้
ในการดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง ได้ส่งเสริมและปรับปรุงระบบการออมเพื่อการเกษียณอายุของแรงงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ได้ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อเพิ่มเพดานเงินสะสมของสมาชิกและเพิ่มเพดานเงินสมทบจากรัฐให้แก่สมาชิก ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบที่ออมกับกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อให้มีเงินออมใช้หลังเกษียณเพิ่มขึ้นแล้ว

การเสนอร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ พ.ศ....เพื่อให้แรงงานในระบบมีเงินออมเพิ่มขึ้น รวมถึงการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงินเพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มและทุกช่วงวัยมีทักษะทางการเงินและความมั่นคงทางการเงินเพิ่มขึ้นด้วย

อ่านข่าว

คลังยันยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10% 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง