วันนี้ (17 ส.ค.2566) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมนำคณะลงพื้นที่สถานีรถไฟหินลับ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตรวจเยี่ยมโครงการรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
พล.อ.ประยุทธ์ โบกมือบ้ายบายสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า รถไฟมันไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว ถ้าทุกคนช่วยกันทำก็ไปข้างหน้าได้
รถไฟยังมีหัวขบวน ถ้าหัวขบวนดีก็ไปได้ตลอด ถ้าหัวขบวนไม่ดีก็ล้มทั้งขบวน
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงที่พรรคเพื่อไทย เตรียมเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)จัดตั้งรัฐบาลได้มีการมารายงานให้ทราบหรือไม่ว่า
ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้หรอก แยกแยะกันหน่อย เป็นเรื่องของหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรี ยังเดินหน้าทำงานในหน้าที่ต่อในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พูดไปหลายครั้งแล้วนะ ประเทศชาติมันเดินหน้าทุกวัน มันมีปัญหาทุกวัน ก็ต้องทำงานตรงนั้นดีกว่ามั้ง ทำไมเราจะต้องไปขัดแย้งกัน ขอสื่ออย่าไปขยายความขัดแย้งอีก
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธว่าไม่ทราบกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมหารือกับพรรค รทสช.ในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยวันไหน นายอนุทิน ระบุว่า นัดคุยกันอยู่ คงจะต้องคุยกับทุกพรรคให้เรียบร้อยก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมพล.อ.อนุพงษ์ และนายอนุทิน ตรวจเยี่ยมโครงการรถไฟทางคู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทิน เดินผ่านที่พล.อ.ประยุทธ์นั่งอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ หันมาบอกสื่อมวลชนว่า ถามการเมืองให้ถามคนนี้ พร้อมชี้ไปที่นายอนุทิน ก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่ตัวเอง พร้อมกล่าวว่า
ถ้าการบ้านก็ต้องถามคนนี้
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณพื้นที่ก่อสร้างงานอุโมงค์รถไฟผาเสด็จ ช่วงมาบกะเบา-หินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2559
โดยสัญญาที่ 3 เป็นงานอุโมงค์รถไฟ จำนวน 3 อุโมงค์ ได้แก่ อุโมงค์ที่ 1 (อุโมงค์ผาเสด็จ) ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบา สถานีผาเสด็จ และสถานีหินลับ จ.สระบุรี มีลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ ทางเดี่ยว มีความยาวประมาณ 5.85 กิโลเมตร ถือเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นการออกแบบที่มีระบบความปลอดภัยค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีความคืบหน้าร้อยละ 98.13 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2566
โดยนายกรัฐมนตรี และคณะได้ขึ้นขบวนรถไฟไปยังอุโมงค์ผาเสด็จ ระยะทาง 300 เมตร เพื่อเยี่ยมชมอุโมงค์ผาเสด็จ ก่อนขึ้นขบวนรถไฟกลับไปยังบริเวณพื้นที่โครงการฯ พร้อมขอบคุณกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันดำเนินงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีความก้าวหน้า
รัฐบาลมั่นใจว่าหากโครงการฯ แล้วเสร็จจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการเดินขบวนรถได้อย่างสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว
สำหรับขบวนรถโดยสาร จะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ย 100-120 กม. ชม.จากเดิม 50 กมต่อ ชม.และขบวนรถสินค้า จะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ย 60 กม.ต่อชม.จากเดิม 29 กม.ต่อชม.ลดระยะเวลาการเดินทาง มีความตรงต่อเวลาของขบวนรถ
เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถ ลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ และประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนกับผู้โดยสารรถไฟ ด้วยการแก้ปัญหาจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับถนนให้เป็นทางต่างระดับทั้งหมด ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุได้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ และเปิดเดินรถในทางคู่ใหม่บางส่วนได้ภายในปี 2567