“ยังมีเรื่องตื่นเต้นอีกเยอะ ให้รอดู” อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย บอกกับนักข่าวเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) หลังจากเข้าไปต้อนรับแฟนคลับที่ร้านติ้งแลป
จากนั้นจึงเดินไปอาคารไทยซัมมิทที่ทำการพรรคก้าวไกล พร้อม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคฯ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคฯ และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เพื่อคุยกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคฯ
ไม่มีใครทราบบทสนทนา ได้แต่คาดเดากันว่า ไปขอเสียงโหวตนายกฯ เพื่อปิดสวิตช์ สว. และพรรค 2 ลุง “พลังประชารัฐ- รวมไทยสร้างชาติ” หรือไม่ ซึ่งหากมองผิวเผิน ถือเป็นการเจรจากันตรงๆ ตามประสานักการเมืองและคนคุ้นเคยที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก่อน
แต่หากมองแบบจับผิดว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีนัยแฝง อาจเป็นแผนตลบหลังพรรคภูมิใจไทยและทำให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ต้องคิดหนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เคยบินไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ฮ่องกงมาก่อน
กอปรกับคำพูดของ “ภูมิธรรม” ที่ระบุว่า อะไรที่เกิดขึ้น ที่เคยเป็นปัญหา อาจจะมีส่วนเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยหรือมีส่วนเกี่ยวกับตน ยินดีขอโทษขอขมา และยินดีไปแสดงความต้องการและความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการหาทางออกของวิกฤตประเทศ หากจะให้ไปที่พรรคก้าวไกลก็ยินดี ยินดีไปทุกพรรค
หากย้อนกลับไปที่วลีทองของเนวิน ชิดชอบ “มันจบแล้วครับนาย” ที่สื่อสารไปยัง “ทักษิณ” เมื่อปี 2551 หรือ 15 ปีที่แล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 5 ปี ทำให้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากกรณีการทุจริตการเลือกตั้งของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค
ทำให้ สส.กลุ่มเพื่อนเนวิน 23 คน ที่ร่วมกับพรรคพลังประชาชน ย้ายข้างไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยร่วมกับ “กลุ่มมัชฌิมา” ก่อตั้งพรรค “ภูมิใจไทย” ขึ้น และเข้าร่วมรัฐบาลกับ พรรคประชาธิปัตย์ ยกมือให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
เหตุการณ์ตลบหลังดังกล่าวจะกลับมาหลอกหลอนภูมิใจไทยหรือไม่ ยังไร้คำตอบ เพราะหากเกิดขึ้นจริง เพื่อไทยหลอกจับมือภูมิใจไทยแล้วถีบทิ้ง กลับไปหาก้าวไกล หลังได้เสียงหนุนเป็นรัฐบาล หรือภาพ-เสียงที่ปรากฏที่เพื่อไทยเป็นฉากหนึ่งของการแสดงละครการเมือง เพื่อเรียกคะแนนเนียนๆ ว่า แกนนำของพรรคฯและประธานครอบครัวเพื่อไทย ทำสุดทางแล้ว แต่ยังหาทางออกไม่ได้
ขณะที่เพื่อไทยกำลังยึกยัก ไม่ชัดเจน ยังไม่ต้องบากหน้าไปหาพรรค 2 ลุง ปรากฏว่า ไผ่ ลิกค์ สส.พลังประชารัฐจากพรรคลุงป้อม เปิดหน้าโชว์ความพร้อมขน สส.ทั้งพรรค 40 เสียง โหวตช่วยเพื่อไทยทันที แต่เลี่ยงที่จะตอบว่า พล.อ.ประวิตรรับรู้สิ่งที่เขาบอกกับสื่อหรือไม่
หาก 10 เดือนยังไม่มีรัฐบาล สู้มีรัฐบาลแล้วมาว่ากันดีกว่าไหม และยืนยันว่า พปชร. มีจุดในการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้อเสนอใดๆ ทั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องแจ้งไปยังพรรคเพื่อไทย
ส่วนสัญญาณการตอบรับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกเพียงว่า ยังไม่พิจารณาถึงเรื่องนี้ และจะขอดูรายละเอียดเพื่อการตัดสินใจให้รอบคอบ
ต่างจากปฏิกิริยาจากอดีต สส. และ สส.ในพรรคพบเพียงข้อความตัดพ้อที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก
เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย เจ็บเจียนตายแล้วยังต้องมาโหวตให้อีกหรือ #มีลุงไม่มีเรา ชำนาญ จันทร์เรือง อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่
ขณะที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล “เราจะโหวตตามเสียงหัวใจของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของพรรค และจะไม่ยอมเปิดประตูให้เผด็จการได้เข้ามาร่วมรัฐบาลสืบทอดอำนาจ อย่างแน่นอน ....
...กรณี 212 เสียง หรือ 238 เสียงก็ตาม พรรคก้าวไกลไม่มีความชอบธรรมที่จะโหวตให้เลย เพราะถ้าก้าวไกลโหวตให้ ก็เท่ากับก้าวไกลกำลังละเลยเสียงของประชาชน และยอมจำนนให้ สว. ที่เผด็จการเลือกมา ให้เข้ามาแทรกแซงอำนาจของประชาชน”
เช่นเดียวกับ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ที่สื่อสารข้อความไปถึง “ภูมิธรรม” ว่า เมื่อเห็นว่า น้องน่ารักจึงอยากบอกเล่าความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาให้ฟัง
โหนจ้ะโหน .....“ทวีตแขวะคุณพิธาก่อนเลือกตั้ง
ตลอดมานับครั้งไม่ถ้วนที่พี่อ้วน ภูมิธรรม มีพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่รวมที่ไปกดหัวใจให้แอคเคาน์ที่มีพฤติกรรมคล้าย io เขียนโจมตีพรรคก้าวไกลแบบรุนแรงไร้เหตุผลรองรับในทวิตเตอร์อยู่เสมอ
ตัวอย่างการแสดงความเห็นต่อบทสัมภาษณ์ของคุณพิธา ที่กล่าวว่า “มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยมาตลอด ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน...”
เป็นช่วงก่อนเลือกตั้ง ในเวลานั้นพี่อ้วนมั่นใจขั้นสุดว่าพรรคตัวเองจะชนะเป็นที่ 1
จึงแขวะคุณพิธาว่า “โหนจ้ะโหน...”
ไม่นับรวมที่ทวีตแขวะพรรคก้าวไกลว่า "ฝันไกลถึงดวงดาวแต่ไปไกลได้แค่ต้นมะพร้าว"
นี่คือ "ต้นธาร" คือสาเหตุที่ทำให้มีการตอบโต้กลับในบางครั้งบางคราวที่รู้สึกหมดความอดทน หมดความเคารพนับถือในความไม่เป็นผู้ใหญ่ของพี่อ้วน
ส่วนท่าทีอดีตคนเสื้อแดงอย่าง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ยาวไป…” ว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยยกโขยงไปขอขมา ขอโทษพรรคก้าวไกล พร้อมขอให้มาโหวตนายกฯ เพื่อไทย ทั้งที่มีพฤติกรรมแข็งกร้าวสลัดทิ้ง แยกทางกับก้าวไกลมาแล้ว พฤติกรรมเช่นนี้จึงเป็นเกมการเมืองเพื่อแต่งตัวไว้รอนำมาเป็นเหตุผลอ้างไปจับมือข้ามขั้วกับพรรค 2 ลุงตั้งรัฐบาล
จึงหวังว่าพรรคก้าวไกลควรจดจำบทเรียนถูกหลอกมาแล้ว และคงไม่โง่ไปทำซ้ำอีก
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์การเมืองล่าสุด พรรคเพื่อไทยบอกจะไปขอขมาพรรคก้าวไกล ดังนั้น สิ่งสำคัญก้าวไกลต้องรู้ตัวเองเช่นกันว่า วิถีของเพื่อไทยยิ่งกว่าชีวิตบัดซบเสียอีก
จตุพร มองว่า หากวันนี้ ถ้าก้าวไกลอยู่นิ่งๆ ต่อให้มีงูเห่ารวมไทยสร้างชาติ กับ พลังประชารัฐเลื้อยมาให้เพื่อไทยชุบเลี้ยงก็ตาม ก็คงจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้อยู่ดี โดยคาดว่าจะมีเสียงจาก สส. 349 เสียง แต่ยังขาดอีกประมาณ 25-26 เสียงจะถึง 376 เสียง จึงต้องขอจาก สว.มาช่วยโหวต
และไม่ว่ารวมไทยสร้างชาติกับ พลังประชารัฐ จะยอมให้เพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลและนายกฯ หรือไม่นั้น ตนเห็นว่านายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้เป็นนายกฯ แน่นอน โดยเกมที่กำลังเดินกันอยู่ต้องการลากไปถึงอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ เพื่อการเมืองมุ่งปิดฉากของตระกูลชินวัตรอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ทักษิณ จะกลับบ้าน ย่อมเป็นการลากให้มาติดกับดักทั้งสิ้น