วันนี้ (10 ส.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีตำรวจจับกุมนายวินัย ผู้ก่อเหตุชิงทองที่ร้านทองแห่งหนึ่งในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าย่านสุขาภิบาล 5 โดยควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนใกล้สถานบริการแห่งหนึ่งในซอยศูนย์วิจัย ถนนเพชรบุรี เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พร้อมตรวจยึดของกลางได้จำนวนหนึ่ง หลังทราบว่าหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอาศัยบ้านเพื่อน ก่อนเข้ามาใช้บริการอาบอบนวด
ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปค้นของกลางที่ซุกซ่อนเอาไว้ในวงกบประตูที่บ้านเพื่อน ที่ผู้ก่อเหตุขออาศัยได้อีกจำนวนหนึ่ง ก่อนจะควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.สายไหม
พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพรับทำกระจกอะลูมิเนียม อยู่กับครอบครัวโดยมีภรรยาและลูกอีก 3 คน แต่ติดการพนันออนไลน์เป็นเงินเกือบ 1,000,000 บาท จึงนำเงินมัดจำของลูกค้าไปใช้หนี้พนัน จนเงินหมุนไม่ทัน เมื่อลูกค้าทวงถามจึงเกิดความกดดันตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว ใช้เจลแอลกอฮอล์ผสมทินเนอร์เข้าไปขู่พนักงานในร้านทองว่าจะเผาร้าน
หลังจากก่อเหตุ นายวินัยได้ไปอาศัยที่บ้านเพื่อนในซอยรามอินทรา 31 และจอดรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้ ก่อนถูกตำรวจตามไปจับกุมได้ที่ย่านถนนเพชรบุรี ขณะนำเงินไปเที่ยวอาบอบนวด เมื่อตรวจค้นพบทองรูปพรรณของกลางอยู่ในกระเป๋าสะพายและเงินสดของกลางอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงที่บ้านพักของเพื่อน ส่วนเงินสดที่หายไปกว่า 100,000 บาท นายวินัยอ้างว่านำเงินของกลางไปโอนใช้หนี้ค่าวัสดุทำกระจกอะลูมิเนียมและใช้จ่าย
พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2
จากการสอบปากคำ พบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุวางแผนจะก่อเหตุ 2 ครั้ง แต่ไม่ได้ลงมือ ครั้งแรกจะชิงทรัพย์ธนาคารแห่งหนึ่งย่าน กม.4 ถนนรามอินทรา โดยเตรียมระเบิดเวลาปลอมไว้ก่อเหตุ แต่เปลี่ยนใจล้มเลิกไป ส่วนครั้งที่ 2 เตรียมก่อเหตุที่ร้านทองในห้างสรรพสินค้าย่านถนนสุขาภิบาล 5 อีกสาขาหนึ่ง แต่ในขณะที่เตรียมก่อเหตุนั้นการจราจรติดขัด จึงตัดสินใจล้มเลิกไป จนกระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้
สำหรับทองที่ตกเป็นของกลางในขณะนี้ ตำรวจให้เจ้าของร้านทองมายืนยันจำนวนทองรูปพรรณว่าได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนระบุว่า เจ้าของร้านยืนยันว่าผู้ก่อเหตุได้ทองไป 28 บาท ทั้งนี้เมื่อสอบสวนผู้ต้องหาแล้วเสร็จ ตำรวจจะนำตัวส่งฝากขังในวันที่ 11 ส.ค.นี้ โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดภายในร้านทองบันทึกเหตุการณ์ผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาในร้าน จากนั้นหยิบขวดสเปย์แอลกอฮอล์ขึ้นมาวางไว้บนเคาน์เตอร์และพูดข่มขู่พนักงานว่าจะเผาร้าน ก่อนจะพ่นสเปรย์บริเวณเคาน์เตอร์ แล้วทำทีจะจุดไฟ ทำให้พนักงานในร้านหวาดกลัวและหลบหนีไปอยู่หลังร้าน
ผู้ก่อเหตุจึงปีนข้ามเคาน์เตอร์ไปหยิบเอาทองรูปพรรณ เป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 16 เส้น, สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 22 เส้น, สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 9 เส้น รวมทองคำ 48 บาท และเงินสดประมาณ 200,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1.9 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง