วันนี้ (17 ก.ค.2566) ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ไลฟ์เฟซบุ๊กอัปเดตอาการของพลายศักดิ์สุรินทร์ กักโรควันที่ 15 โดยควาญช้างและช้างยังคงทำกิจวัตรประจำวันเช่นเดิม ทั้งอาบน้ำ ขัดผิว ขัดหาง โดยจะใช้เครือสะบ้าขัดตัวอาบน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง พร้อมให้อาหารด้วยหญ้าและผลไม้ชนิดต่างๆตามที่ทีมสัตวแพทย์ควบคุมหรือกำหนดไว้ให้ในแต่ละวัน ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างความคุ้นชินระหว่างกันช่วงกักกันโรค 30 วัน
ส่วนสัตวแพทย์ตรวจและทำความสะอาดแผลฝีบริเวณสะโพกทั้ง 2 ข้าง พบดีขึ้นเรื่อยๆ และไม่น่ากังวลแล้ว พร้อมเพิ่มให้ควาญช้างเก็บข้อมูล มูลและปัสสาวะช้าง ทุกวัน ตั้งแต่เริ่มกินหญ้าจนถึงนอน เพื่อตรวจสุขภาพภายใน-ภายนอก และโรคต่างๆ ส่วนมูลพลายศักดิ์สุรินทร์จะนำไปฝังกลบอย่างเดียว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคช่วงกักกันโรค
ส่วนการให้น้ำช้างกินใน 1 วัน จะแบ่งเป็น 3 รอบ คือ รอบเช้า รอบบ่าย และรอบเย็น ส่วนหญ้าจะแบ่งให้กินเป็นมื้อย่อยๆ ต่อวัน พร้อมปรับเวลาอาหารมื้อสุดท้ายของวันเป็นเวลา 20.30 น. เหมือนกับช้างเชือกอื่นๆ ในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
พักงวง พอยด์ขา ส่งเสียงดัง FC เอ็นดูพลายศักดิ์สุรินทร์ ถูกคุมอาหารประท้วงควาญพี่ปลิว
พักงวง พอยด์ขา ส่งเสียงดัง FC เอ็นดูพลายศักดิ์สุรินทร์ ถูกคุมอาหารประท้วงควาญพี่ปลิว
คุมอาหารห่วงอ้วนเสี่ยงกระทบน้ำหนักขา
เบื้องต้นประเมินพลายศักดิ์สุรินทร์ มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 4 ตัน สัตวแพทย์ยังไม่ให้กินอาหารหนักเกิน เพื่อไม่ให้อ้วนเกินไป เพราะจะมีผลต่อขาหน้าซ้ายที่งอเข่าไม่ได้ จึงยังจำเป็นต้องควบคุมอาหารต่อเนื่อง
ทั้งนี้พบว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ ยังมีอิริยาบถน่ารักๆ เช่น มีการพักงวง และส่งเสียงร้องดังหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากพี่ปลิว ที่ค่อยๆ ทยอยให้อาหารเป็นเวลาๆ รวมทั้งมีการพอยด์ขาหลัง สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ติดตามไลฟ์จำนวนมาก
สำหรับการนอนหลับของพลายศักดิ์สุรินทร์อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ค.66) นอนดึกและได้นอนรวม 3 รอบ คือ เวลา 01.41 – 02.40 น. ล้มตัวลงนอนตะแคงด้านขวา เวลา 02.42 –04.07 น. ล้มตัวลงนอนตะแคงด้านซ้าย และเวลา 01.32 – 02.38 น. ล้มตัวลงนอนตะแคงด้านขวา รวมแล้วเฉลี่ยช้างใช้เวลานอนประมาณ 2.30 ชั่วโมงต่อคืน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอ็นดู! พี่ควาญสปาเครือสะบ้า เสริมหล่อ “พลายศักดิ์สุรินทร์”
"หมอล็อต" ชี้ "แมลงวันตา" ทำกระทิงตาบอดปล่อยแบคทีเรียก่อโรค