วันนี้ (29 พ.ค.2566) นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมกับนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความ เดินทางมาศาลอาญา ตามที่ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องที่เป็นโจทก์ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ในข้อหาแจ้งความเท็จ ทำพยานหลักฐานเท็จ แจ้งความเท็จให้ต้องรับโทษทางอาญา หมิ่นประมาท แจ้งข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานทางคดี กรณีมีการวางแผนล่อลวงให้รับเงิน และเผยแพร่ข้อมูลบันทึกวิดีโอให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย
นายวราชันย์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานเอกสารและพยานวัตถุ ยื่นให้ศาลพิจารณาการไตร่สวนมูลฟ้อง โดยศาลได้มีหมายเรียกตำรวจ 3 นายเข้ามาเป็นพยาน พร้อมกับพยานคนอื่นๆ แต่ไม่ขอเปิดเผย
ส่วนนายชัยวัฒน์ จะเดินทางมาด้วยตัวเองหรือส่งทนายมาแทนก็ได้ ในส่วนนี้ทางฝ่ายจำเลย ก็สามารถขอเลื่อนการนัดไต่สวนมูลฟ้องได้หากมีความจำเป็น
อ่านข่าวเพิ่ม ศาลนัดฟังคำสั่งรับฟัองคดี "รัชฎา-บก.ปปป.-ชัยวัฒน์" 30 พ.ค.นี้
การดำเนินคดีกับนายชัยวัฒน์ ในส่วนนี้แยกออกจากกรณีที่ยื่นฟ้อง พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปท.) รวมทั้งชุดจับกุม และนายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 7 คน เป็นจำเลย ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนัก งานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง นัดรับฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องกรณีนี้ด้วย
ส่วนกรณีที่นายรัชฎา เป็นผู้ต้องหา กรณีที่ปปป.และนายชัยวัฒน์ พร้อมพวก ดำเนินคดีฐานเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบหลักฐาน ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และมีการเข้าไปรายงานตัวทุก 3 เดือน
ยืนยันว่านายรัชฎา บริสุทธิ์ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดตามที่นายชัยวัฒน์กล่าวหา ส่วนวันนี้นายชัยวัฒน์ ได้ส่งทนายเข้ามารับฟังการนัดไตร่สวนมูลฟ้องแทน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ ให้ "รัชฎา" พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ
"ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร" กับเส้นทางชีวิตที่พลิกผัน