โฆษกของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิล พระชายา เปิดเผยว่า ทั้ง 2 รวมไปถึงแม่ของเมแกน ต้องนั่งรถหลบหนีปาปารัสซีที่ไล่ติดตามนานกว่า 2 ชั่วโมง ในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเสร็จสิ้นการร่วมพิธีมอบรางวัล และโฆษก ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทั้งหมดตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเกือบจะเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง โดยมีรายงานอ้างว่า มีรถประมาณ 6 คันขับตามเพื่อพยายามบันทึกภาพของทั้งคู่อย่างไม่ลดละ ทำให้เกิดความวุ่นวายบนท้องถนน ทั้งฝ่าไฟแดง ขับขึ้นไปบนทางเท้า กีดขวางการจราจร และอื่น ๆ
โฆษกของเจ้าชายแฮร์รี่ ระบุว่า เจ้าชายและพระชายาพยายามหลบเข้าไปในสถานีตำรวจแมนแฮตตัน เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่เพื่อพยายามหลบเลี่ยงจากกลุ่มปาปารัสซี แต่สุดท้ายก็ถูกพบจนต้องกลับไปใช้รถรักษาความปลอดภัยของตนเอง ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังบ้านเพื่อนเพื่อหลีกหนีเหตุวุ่นวายนี้
ขณะที่เอริค อดัมส์ นายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์ก ตั้งข้อสังเกตว่า การขับรถไล่ตามนานกว่า 2 ชั่วโมงในนิวยอร์กยากที่จะเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง เพราะปกติเหตุการณ์ลักษณะนี้หากเกิดขึ้นเพียงแค่ 10 นาทีก็ถือเป็นอันตรายอย่างมากแล้วในนิวยอร์กที่การจราจรแออัดคับคั่ง นอกจากนี้ยังเปิดว่า มีเจ้าหน้าที่ 2 คน ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
ด้านตำรวจนิวยอร์ก ยืนยันว่า มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเกิดขึ้นจริง โดยมีช่างภาพจำนวนมากที่รบกวนการเดินทางของทั้งคู่ แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือถูกจับกุม
ขณะที่ Sonny คนขับแท็กซี่คันที่อยู่ในเหตุการณ์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่า ทั้งหมดตอนที่ขึ้นรถมาดูเงียบและหวาดกลัว แต่เหมือนจะพูดเกินจริงไปหน่อย เพราะไม่รู้สึกว่าเหมือนเป็นการไล่ นอกจากนี้ เขายังได้รับค่าโดยสารมาถึง 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,700 บาท สำหรับการเดินทางเพียง 10 นาที
เหตุการณ์นี้ทำให้เป็นที่สนใจอย่างมาก เพราะเจ้าชายแฮร์รีไม่ค่อยลงรอยกับบรรดาสื่อและปาปารัสซีอยู่แล้ว และยังมีความคล้ายคลึงกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานาพระมารดา ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างที่ต้องนั่งรถหนีการไล่ตามของปาปารัสซีเมื่อปี 1997