วันนี้ (27 เม.ย.2566) ตำรวจกองปราบปรามเชิญสามีและเพื่อนของผู้เสียชีวิตคนหนึ่งใน จ.มุกดาหาร มาสอบปากคำ หลังพบเส้นทางการเงินจำนวนหลายแสนบาทระหว่างบัญชีผู้เสียชีวิต โอนไปให้บัญชีของนางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดี
ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 7 ชั่วโมง พยานทั้ง 2 คนออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยสามีของผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ภรรยาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2563 ที่บ้านพัก จ.มุกดาหาร ซึ่งภรรยาเพิ่งจะคลอดลูกคนที่ 2 ได้ประมาณเดือนกว่าๆ ก่อนเสียชีวิตได้วิดีโอคอลหากันตลอด โดยภรรยามีสุขภาพแข็งแรงและดูปกติ
แต่ในช่วงเย็น ลูกชายคนโตโทรมาบอกว่าแม่เป็นลมเสียชีวิต จึงรีบเดินทางกลับ จ.มุกดาหาร และเห็นสภาพศพพบว่ามีเลือดออกปาก ปลายเล็บนิ้วมือเขียวช้ำ ซึ่งผลการชันสูตรจากแพทย์ไม่พบสารพิษในร่างกาย จึงไม่ติดใจสาเหตุการตาย
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างภรรยาตนเองกับ "แอม" ผู้ต้องหาคดีวางยานั้น รู้จักผ่านวงแชร์ออนไลน์เมื่อประมาณปี 2559-2560 ซึ่งทั้งคู่เคยเป็นลูกแชร์ด้วยกัน แต่วงแชร์ล้ม จึงนัดเจอกันเพื่อปรึกษาเรื่องตามทวงเงิน และหลังจากนั้นก็ได้นัดหมายพบปะพูดคุยกันมาตลอด
อ่านข่าว: “วงแชร์-เงินกู้” ประตูสู่ความตาย
สามีของผู้เสียชีวิต กล่าวอีกว่า เคยเจอแอม 2 ครั้ง ดูเป็นคนปกติทั่วไป ไม่มีอะไรน่าสงสัย ซึ่งนอกจากเล่นแชร์แล้ว ยังได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจขายน้ำมันออนไลน์ แต่กลับถูกโกงเงินไป 40,000 บาท และแอมมักจะทักมายืนเงินภรรยาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งภรรยาก็จะโทรมาบอกตนเองอยู่เป็นประจำ
และวันนี้ (27 เม.ย.) ได้นำโทรศัพท์มือถือมาให้ตำรวจตรวจสอบ พบสลิปโอนเงินที่ภรรยาโอนไปให้แอมหลายแสนบาทด้วยเช่นกัน ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นกับเหยื่อหลายคน ยิ่งทำให้มั่นใจว่าภรรยาของตนเองอาจจะถูกวางยา
อ่านข่าว : แจ้งข้อหาเพิ่ม "แอมไซยาไนด์" คดีสารวัตรปู พบโยงอีก 2 ยอดพุ่ง 13 คน
ด้านหญิงอีกหนึ่งคนที่รู้จักกับ "แอม" และผู้เสียชีวิตที่ จ.มุกดาหาร จากการเล่นวงแชน์ด้วยกัน เปิดเผยว่า รู้จักกันเพราะถูกโกงแชร์ จึงได้ติดต่อกันมาตลอด โดยแอมมักจะขอยืมเงินอยู่บ่อย ๆ แต่ก็คืนให้ ยอดเงินมีตั้งแต่ 2,000-3,000 บาท ไปจนถึง 50,000-60,000 บาท ขณะนี้มียอดค้างอยู่ประมาณ 20,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้แอมบอกว่าไม่เคยยืมเงินใคร มีแต่โดนคนอื่นยืมแล้วไม่คืน
ที่ผ่านมาแอมเคยชวนไปสวดมนต์ไหว้พระเช่นกัน อีกทั้งช่วงโควิด-19 เริ่มระบาดก็เคยส่งยามาให้ โดยบอกว่าพี่สาวขายยา ซึ่งตนเองกินแล้วก็ไม่พบความผิดปกติ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ปรากฏเป็นข่าวทำให้รู้สึกว่าโชคดีที่รอดมาได้
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า การสอบปากคำเบื้องต้นข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ยังขอไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ไปมากกว่านี้ ส่วนพี่สาวของผู้ต้องหาที่พบว่าเป็นเภสัชเปิดร้านขายยา ขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อเชิญตัวมาให้ปากคำเพิ่มเติม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"บิ๊กโจ๊ก" ชี้คดีไซยาไนด์มุ่งปม "ฆ่าล้างหนี้" เรียกอดีตสามี ตร.สอบปากคำ