โทษประหารในชีวิตประเทศไทยยังมีอยู่ มีตั้งแต่การฟันดาบ ยิงเป้า และฉีดยา นี่เป็นหลักประหารชีวิตอันแรกของประเทศไทย ร่องรอยของไม้จะเห็นว่าไม่สมบูรณ์
เนื่องจากตัวหลักประหารถูกยิงด้วยกระสุนปืนมากถึง 319 คน ก่อนจะยกเลิกประหารชีวิตด้วยปืน ในปี 2546 และเปลี่ยนมาเป็นประหารชีวิตด้วยการฉีดยา นี่เป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทัณฑ์ผู้กระทำความผิด
นอกจากนี้ยังมีดาบเพชฌฆาตที่ใช้ประหารชีวิตในสมัยอดีตโดยมีนาย “เหรียญ เพิ่มกำลังเมือง” เป็นเพชฌฆาตดาบคนแรกของไทย จะถูกนำมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมกัน ในพิพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ จะเปิดให้เข้าชม อย่างเป็นทางการ 19 พ.ค.นี้
เครื่องมือลงทัณฑ์หลายชิ้น ไม่เคยจัดแสดงให้เห็นที่ไหนมาก่อน กรมราชทัณฑ์ตั้งใจจะแสดงให้เห็นวิวัฒนาการการประหารชีวิตตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันให้เห็นว่าคุกมีไว้ทำไม เริ่มตั้งแต่การใช้เครื่องมือทรมานนักโทษ
นอกจากนี้ยังมีดาบเพชฌฆาตที่ใช้ประหารชีวิตในสมัยอดีต โดยมีในเหรียญ เพิ่มกำลังเมือง เป็นเพชฌฆาตดาบคนแรกของไทย
เช่น ตระกร้อ ทำด้วยหวายขนาดใหญ่ เป็นเครื่องมือทรมานนักโทษ จะให้นักโทษเข้าไปอยู่ข้างใน สมัยก่อนจะให้ช้างเตะไปมาเหมือนฟุตบอล เพื่อให้นักโทษถูกแหลมเหล็กทิ่มแทง
ตะโหงก ทำด้วยไม้ลักษณะคล้ายขื่อ มักจะใช้กับนักโทษที่มีโทษหนัก หรือผู้ร้ายสำคัญที่ถูกส่งไปยังที่คุมขัง
ฆ้อนตอกเล็บ ทำด้วยไม้แก่นปลาย ไม้ข้างแหลมจะใส่เข้าไประหว่างเล็บและเนื้อ ใช้ไม้ตอกเข้าไปเล็บ เพื่อให้หลาบจำ ขณะที่โซ่ตรวนในการล่ามโซ่นักโทษมีน้ำหนักมากถึง 15-20 กิโลกรัม เพื่อป้องกันนักโทษหลบหนี
ในอดีตการประหารชีวิตของไทยใช้ ดาบ ยิ่งเป้า และปัจจุบันนี้เป็นการฉีดยาแล้ว แม้หลายประเทศจะยกเลิกประหารชีวิตไปแล้ว แต่นักโทษรายสุดท้าย ที่ถูกประหารชีวิต ในรอบ 9 ปี ด้วยการฉีดยา ก็คือ นักโทษคดีฆ่าชิงทรัพย์ในวัย 26 ปี
จิราพร คำภาพันธ์ : รายงาน