เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแกนนำพรรค เดินทางลงพื้นที่มาช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง ประกอบด้วย เขต 1 นายกิตติ กิตติธรกุล หมายเลข 2 เขต 2, นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ หมายเลข 4 และ เขต 3 นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง อดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย สมัยที่ผ่านมา หมายเลข 1
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นมาก เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จ.กระบี่ ทำให้เราได้ ส.ส.ภาคใต้ ตอนนั้น มาขอกันแบบนี้ บอกว่าถ้าพี่น้องเลือกเรา ส.ส.ท่านนั้น จะมีพลังมาก พอได้มา ปรากฏว่า นายสฤษฏ์พงษ์ มีพลังมากขึ้นจริง ๆ เพราะมีประชาชนหนุนหลังแล้ว เป็นผู้แทนราษฎร ทีนี้ ได้มาขอให้ช่วยเรื่องพื้นที่ ตนปฏิเสธไม่ลง เพราะท่านมาในฐานะผู้แทนคนกระบี่ ผู้แทนคนไทย ที่สำคัญคือ สะพานข้ามเกาะลันตา บอกว่าพี่น้องอยากได้มานานมาก ตนได้ฟังนายสฤษฏ์พงษ์ พูดถึงความจำเป็นได้เร่งผลักดันให้ ตอนนี้เดินหน้าแล้วอำนวยความสะดวกให้ประชาชน แถมให้ด้วยการพัฒนาโรงพยาบาลใน จ.กระบี่
ด้านการท่องเที่ยวก็ทำให้ดีขึ้นไปอีก เราตอบแทนพระคุณชาวกระบี่ที่เลือกเรา สนามบินกระบี่ อาคารใหม่ ก็เสร็จแล้ว เราไม่ลืมท่าน และเราก็ต้องการทำอีก แต่มันต้องขึ้นกับว่าจะมีโอกาสนั้นหรือไม่ ซึ่งโอกาสที่ว่า ก็มาจากประชาชนนี่เอง เลือกมาคนเดียวได้ขนาดนี้ การเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. ขอให้เลือกมาแบบยกจังหวัดเลย รับรองว่า การพัฒนาจะเกิดขึ้นแบบเร็วจี๋ทันใจทันใช้แน่นอน
กับภาคใต้ ทั้งภูมิภาค ภูมิใจไทยไม่ได้มองไปแค่เรื่องของการท่องเที่ยว แต่เรามองไกลกว่านั้น ที่นี่มีหลายจังหวัดที่จะเป็นเมืองเศรษฐกิจ เมืองอุตสาหกรรม ทั้งระนอง ชุมพร ในอนาคต
เมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาล มั่นใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์ต้องทำแน่นอน เชื่อมต่อการเดินทาง ทำให้ทั้ง 2 จังหวัดเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาค มีการจ้างงานมากขึ้น กระบี่ได้ประโยชน์ด้วย แล้วกระบี่ เรื่องการท่องเที่ยวมันต้องไปด้วยกันกับภูเก็ต ตรัง พังงา ระนอง
ชัดเจนว่า ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนนับจากเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวมาประเทศไทยจำนวนมากเราต้องเตรียมตัวไว้ลูกหลานเราจะมีโอกาสทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว ถึงจุดหนึ่งต้องเตรียมพร้อมเพื่อไปแสวงหาโอกาส จึงมีนโยบายสร้างความมั่นคงให้ทุกคน เริ่มจากการพักหนี้ 3 ปี วงเงิน 1 ล้านบาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ยก่อนสร้างความมั่นคงให้คนไทยไม่ต้องกังวลกับหนี้สิน ให้มีเวลาได้คิดได้ทำ ปีที่ 4 ค่อยคืนและคนไทยที่มีเหตุฉุกเฉินเรื่องเงินทองมีกองทุนให้กู้ยืม 50,000 บาท จะได้ไม่ต้องไปกู้นอกระบบ
ส่วนผู้สูงอายุ มีกองทุนผู้สูงวัยคอยดูแลให้ใช้ดูแลตัวเอง เมื่อท่านเสียชีวิตไปเงินจะตกถึงลูกหลานท่าน 100,000 บาท นอกจากนั้น จะเดินหน้านโยบายให้ทุกอำเภอมีศูนย์ฟอกไต ทุกจังหวัดมีเครื่องฉายรังสี สวัสดิการผู้สูงอายุต้องดีขึ้น ลูกหลานไม่ต้องมาพะวงเอาพลังไปทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัวผู้สูงวัย ภาครัฐ จะเข้ามาดูแล พรรคภูมิใจไทย พยามหาสร้างความมั่นคง ให้ประชาชน หลายนโยบายที่พูดไว้คือ สิ่งที่ทำได้เลยใน 6 เดือนแรกที่เป็นรัฐบาล
พรรคไม่ขายฝัน แต่ขายผลงาน เชื่อว่าสิ่งที่ทำมาแล้วจะทำให้ท่านไว้ใจเราได้ เราไม่เชื่อในความขัดแย้ง เพราะถ้าทะเลาะกัน งานมันไม่เดิน ผลงานไม่เกิด ประชาชนเสียประโยชน์