วันนี้ (20 เม.ย.2566) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่พัทยาและบางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อช่วยผู้สมัครเขต 8 นายจรัส คุ้มไข่น้ำ และ เขต 9 นายยอดชาย พึ่งพร โดยช่วงบ่ายตระเวนรถแห่ไปตามเส้นทางพัทยาเหนือ นาเกลือ และแวะพักปราศรัยบนรถแห่ที่ตลาดตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเลือกตั้งและลงคะแนนให้กับก้าวไกลทั้งสองใบ
ส่วนหนึ่งของเนื้อหาการปราศรัย นายธนาธรพูดถึงการสร้างประเทศที่ไม่มีรัฐประหารอีกต่อไป สร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ทั้งหมดเพื่ออนาคตของลูกหลาน ก้าวไกลต้องการกระจายอำนาจจากส่วนกลางมายังท้องถิ่น เพื่อไม่ให้งบและโครงการต่างๆ กระจุกตัวอยู่แค่ส่วนกลางเท่านั้น ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนต้องลดลง และที่สำคัญต้องสร้างนิติรัฐและนิติธรรม คนรวยและคนจนต้องเสมอภาคกันในทางกฎหมาย
พร้อมกับระบุว่า อย่าไปเชื่อที่คนบอกว่าก้าวไกลสุดโต่ง การพัฒนาให้ประเทศเจริญเทียบเท่าญี่ปุ่นไม่ใช่ความสุดโต่ง และถ้าพี่น้องประชาชนเห็นด้วยให้ช่วยกันกาก้าวไกล เพื่อให้ได้คะแนนมากพอจัดตั้งรัฐบาล
ขณะที่ ช่วงเย็น นายธนาธร และ น.ส.เบญจา เดินทางไปช่วยนายวรท ศิริรักษ์ เขต 1 เมืองชลบุรี หาเสียงในตลาดนัดอีสเทิร์น และตลาดนัดจตุจักรชลบุรี และได้รับความสนใจจากประชาชนในตลาดด้วยเช่นกัน
รักษาฐานเสียงอนาคตใหม่เดิม ไม่หวั่นแม้บางเขตส่ง ส.ส.สู้งูเห่าเก่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งปี 2562 อดีตพรรคอนาคตใหม่ ส.ส.ชลบุรี 3 ที่นั่ง จากทั้งหมด 8 เขต แต่เมื่อดูคะแนนที่ส่งอนาคตใหม่ได้เก้าอี้ ส.ส.ในแต่ละเขต พบว่า ชนะผู้สมัครของพลังประชารัฐ ไม่ถึง 5% ซึ่งถือว่าเฉียดฉิวมาก ขณะที่อีก 5 เขตซึ่งเป็นของพลังประชารัฐ พบว่า คะแนนของผู้สมัคร ส.ส. จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ ยังห่างจากเจ้าของพื้นที่มากกว่าครึ่ง
อย่างไรก็ตาม กติกาบัตรเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดไม่เหมือนเดิม เขตเลือกตั้งก็ต่างจากเดิม โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ จ.ชลบุรีมี 10 เขตจากเดิม 8 เขต
นายจรัส คุ้มไข่น้ำ อดีต ส.ส. ก้าวไกล ต้องรักษาเก้าอี้เดิมในเขต 8 บางละมุง ขณะที่นายกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ผู้สมัครก้าวไกล ต้องลงแข่งกับ ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส. อนาคตใหม่ที่ย้ายไปภูมิใจไทย ในเขต 6 ศรีราชา เกาะสีชัง ส่วนนายยอดชาย พึ่งพร ผู้สมัครก้าวไกล เขต 9 ต้องลงทวงเก้าอี้คืนจาก กวินนาถ ตาคีย์ อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ที่ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐแล้วตอนนี้
มาถึงชลบุรีทุกครั้งก็ต้องขอโทษพ่อแม่พี่น้องประชาชน ที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่เดิม ย้ายพรรคไป ซึ่งในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
นายธนาธร กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่จึงต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าผู้สมัครของพรรคก้าวไกลไม่ใช่งูเห่าอีกต่อไป มีอุดมการณ์หนักแน่น ไม่ทรยศประชาชน และตั้งใจเข้ามาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน แต่เขาคิดว่าคนติดใจเรื่องงูเห่ามีไม่เยอะแล้ว โจทย์นี้จบไปแล้ว โจทย์ใหม่ที่น่ากังวลคือเรื่องการสร้างข่าวปลอมอย่างเป็นระบบ ใส่ร้ายว่าก้าวไกลจะยกเลิกบำนาญราชการ ส่งต่อในกลุ่มไลน์ต่างๆ ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
จ.ชลบุรี เป็นทั้งเมืองท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม ทำให้มีปัญหารถติด มลพิษ ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำประปา รวมไปถึงปัญหาของภาคการประมง พรรคก้าวไกลคิดว่า พรรคมีความพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
เพื่อรักษาฐานเสียงของพรรคอนาคตใหม่ที่เคยได้ ส.ส. 3 คนใน จ.ชลบุรี และเจาะฐานเสียงพรรคคู่แข่งเพื่อให้ได้ ส.ส.ในพื้นที่นี้มากขึ้น นายธนาธร บอกว่า ทางพรรคและทางผู้สมัครพยายามสื่อสารกับพี่น้องในภาพกว้างว่า พรรคก้าวไกลต้องการสร้างประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น และระบบเส้นสายในราชการ ในด้านทางเศรษฐกิจ ทางพรรคต้องการสร้างประเทศไทยที่ทำให้ลูกหลานมีงานทำ มีเทคโนโลยีเป็นของตนเอง ไม่ใช่ต้องนำเข้าจากประเทศอื่นอยู่ฝ่ายเดียว มีโรงพยาบาลและโรงเรียนที่ดีใกล้บ้าน
กระแสพรรคก้าวไกลดีขึ้นทุกวัน
ผู้ช่วยหาเสียงก้าวไกล บอกว่า กระแสพรรคดีขึ้นเรื่อยๆ หลังการยุบสภา เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจข่าวการเมืองและการเลือกตั้งมากขึ้น ผู้สมัครของพรรคเป็นคนเก่ง ดีกว่า และมีคุณภาพมากกว่าสมัยพรรคอนาคตใหม่เสียอีก เมื่อประชาชนเห็นคุณสมบัติของผู้สมัครและนโยบายพรรค รวมถึงการทำงานของพรรคในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา จึงทำให้คะแนนนิยมของพรรคเพิ่มมากขึ้น
ผมคิดว่ายิ่งใกล้เลือกตั้งมากขึ้นเท่าไร คะแนนนิยมของพรรคก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะคนต้องค้นหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจ
ในระยะเวลากว่า 20 วันที่เหลือ ทางพรรคก้าวไกลจะเลี้ยงและเพิ่มกระแสในสองทาง หนึ่ง ในระดับพื้นที่ต้องฝากไว้กับตัวผู้สมัคร ต้องเดินให้เยอะ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงนโยบายของพรรค ส่วนในระดับชาติ ทางพรรคเองจะใช้เวทีดีเบตต่างๆ เวทีสอบถามนโยบายต่างๆ นำเสนอนโยบาย ความตั้งใจ ความแน่วแน่ และอุดมการณ์ของพรรคให้เข้าถึงพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด
ไม่หวั่นหากสูตรจัดตั้งรัฐบาลไม่มีก้าวไกล
นายธนาธร ไม่คิดว่าก้าวไกลและเพื่อไทยกำลังแย่งกันหาเสียงจากฐานกลุ่มเดียวกันเสมอไป จากการพูดคุยกับประชาชนในหลายพื้นที่ ก็มีคนที่เคยเลือกพรรคลุงมาก่อน แต่คราวนี้ตัดสินใจชัดเจนว่าไม่เอาอีกแล้ว และเปลี่ยนฝั่งมาลงคะแนนให้พรรคฝ่ายค้านในรอบนี้จำนวนไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธว่ามีส่วนทับซ้อนระหว่างเสียงของก้าวไกลและเพื่อไทย
เมื่อสอบถามว่านายธนาธรตีความที่แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย กล่าวว่าไม่ชอบรัฐประหาร อย่างไร เขาตอบว่า ในส่วนนี้คงต้องกลับไปถามคุณแพทองธารหรือพรรคเพื่อไทยเองดีกว่า เพราะในส่วนของก้าวไกลนั้นชัดเจนแล้วว่าไม่จับมือกับทหารจำแลง เพราะกลุ่มคนเหล่านี้พาประเทศไทยมาถึงจุดนี้ ซึ่งเป็นความล้มเหลว ทั้งทางเศรษฐกิจหรือการเมือง
เราคงไม่ร่วมมือกับคนที่ไม่เชิดชูประชาธิปไตย
ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึงว่าสูตรจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง สุดท้ายแล้วอาจเป็นเพื่อไทยจับมือกับพลังประชารัฐ ทางก้าวไกลก็ไม่หวั่น และพร้อมจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
ยิ่งตัดสินใจแบบนั้นก็ยิ่งดี พี่น้องประชาชนจะได้เห็น ว่าอะไรคืออะไร
โดยนายธนาธรกล่าวทิ้งท้ายว่า ใครจะโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกลอย่างไร ทางพรรคก็ไม่กังวล เพราะเพื่อนของพรรคคือประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เลือกตั้ง2566 : เช็กเรตติ้งพรรคการเมือง เกาะกระแสค่าไฟแพง
เลือกตั้ง2566 : กกต.แนะตรวจสอบสิทธิ เพิ่ม-ถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อน 3 พ.ค.
เลือกตั้ง2566 : ไร้ปัญหา! ป้ายพัง-หายเช็กชื่อ ส.ส.ผ่านออนไลน์