วันนี้ (3 เม.ย.2566) ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลจากทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง ขึ้นรถขบวนประชาสัมพันธ์เบอร์ผู้สมัครไปตามถนนของกรุงเทพฯ หลังจากจับสลากเบอร์ของผู้สมัคร ส.ส. รายเขตจากทุกพรรคการเมือง สำหรับเขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร
เริ่มจากอาคารกีฬาเวสน์ 2 มุ่งไปตามเส้นทางสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อารีย์ อาคารรัฐสภา สานเสน พระบรมมหาราชวัง ก่อนจบลงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ก่อนเริ่มขบวน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้ผู้สมัครเขต ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เบอร์ของตัวเองครบถ้วนแล้ว ทุกคนพร้อมลงไปแนะนำตัวกับประชาชน ซึ่งการเลือกตั้งรอบนี้มีความซับซ้อนขึ้น เพราะบัตรเลือกตั้งใบหนึ่งเป็นพรรค อีกหนึ่งใบเป็นเขต โดยบัตรเลือกตั้งจะไม่มีชื่อผู้สมัคร ดังนั้นจึงต้องประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าว่า สำหรับผู้สมัครขอให้ทุกคนได้จำเบอร์ ส่วนพรรค ในบัตรเลือกตั้งจะมีโลโก้และชื่อพรรคอยู่แล้ว
หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะเน้นหาเสียงให้เรียบง่าย สะดวกต่อประชาชนในการจดจำ ไม่สับสนและไม่น่าเบื่อ โดยจะพยายามทำให้การเมืองเป็นเรื่องสนุกและมีความหวังสำหรับประชาชน
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลง ยิ่งประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมาก จะยิ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงเจตนารมณ์ของประชาชนได้มากเท่านั้น
สำหรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียงจะเน้นพูดถึงนโยบายหลักๆ ที่ตรงใจประชาชนให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนจำได้ว่าผู้สมัคร ส.ส. เขตแต่ละคนของพรรคได้เบอร์อะไร นโยบาย 100 วันแรกจะทำอะไรบ้าง ก่อนลงลึกไปในรายละเอียดต่างๆ ต่อไป
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุอีกว่า สิ่งที่ทำให้พรรคก้าวไกลได้เปรียบกว่าครั้งอนาคตใหม่ คือการที่ผู้สมัครส่วนใหญ่มีโอกาสทำงานในพื้นที่มาแล้ว 2 ปีกว่า ทุกคนได้คลุกคลีกับประชาชนทั้งในช่วงโควิด วิกฤตของแพง ค่าแรงถูกและปัญหาต่างๆ ซึ่งทุกคนได้ช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ มีข้อเสนอและแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่าง ตรงจุดและแก้ที่ต้นตอ
ทั้งนี้ มั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคก้าวไกลจะไม่ประสบปัญหาในการเป็นที่จดจำ ชื่นชอบ และได้รับความเชื่อใจจากประชาชนในการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
มั่นใจได้ ส.ส. เขตมากกว่าปาร์ตี้ลิสต์ มุ่งสอยเขตใหม่ ไม่หวั่นเจ้าถิ่นเดิม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พาผู้สมัคร ส.ส.กทม.ท้ัง 33 คน ตระเวนหาเสียงทั่วกรุงเทพฯ ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รัฐสภา พระบรมหาราชวัง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลที่ไม่ได้ลงปาร์ตี้ลิสต์รอบนี้ มาช่วยกันหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรค
นายพิธา บอกว่า เขาตั้งใจเดินทางมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะ ประชาธิปไตยประเทศไทยยังไม่เต็มใบ และพรรคก้าวไกลต้องการอาสาเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ตามแนวคิด "การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต" ทางพรรคตั้งใจผลักดันให้ไทยเข้าสู่ ICC ตามสัตยาบันกรุงโรม เพื่อไม่ให้อาชญากรรมที่ละเมิดสิทธิมนุษยชาติ เช่น รัฐประหาร เกิดขึ้นในไทยอีก ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับประชาชน ผ่าน ส.ส.ร. เพราะที่ผ่านมารัฐธรรมนูญมาจากทหารทั้งสิ้น
รัฐธรรมนูญปี 2560 กับ ปี 2522 ซึ่งเป็นปีที่นายพิธาเกิด คนร่าง รธน. ก็คนเดียวกัน เพราะฉะนั้น ประชาธิปไตยที่ไม่เต็มใบก็ทำให้ไทยไม่มีสมาธิแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การคอร์รัปชั่น และการศึกษา
สิ่งศักดิ์สิทธิ์เราก็ไหว้นะครับ แต่ผมคิดว่าการไหว้ประชาชน เข้าหาประชาชน เป็นแนวทางของพรรคก้าวไกลมากกว่า
นายพิธากล่าวต่อว่า แคมเปญการหาเสียงเดินทางมาครึ่งทางแล้ว และเหลือเวลาอีกกว่า 40 วัน ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากประชาชนทั่วทุกภาคอย่างดี ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพมหานคร
ผมมั่นใจว่าจะสร้างประชาธิปไตยได้ในหลายพื้นที่ และ ส.ส.เขตจะมีจำนวนมากกว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยซ้ำไป
นายพิธา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ที่มี ส.ส. ของพรรคอื่นเป็นเจ้าของพื้นที่อยู่เดิม พรรคก้าวไกลมั่นใจว่าประชาชนจำนวนมากต้องการความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากหากเป็นของเดิมก็จะได้แบบเดิม ตอนนี้คิดว่าประชาชนอยากได้คนรุ่นใหม่มาใช้งาน ซึ่งผู้สมัครของพรรคมีความหลากหลาย มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่สามารถทำงานได้
ความเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ใช่ดูที่วันเดือนปีเกิดในบัตรประชาชน แต่ว่าเป็นแนวความคิดเป็นแนวทาง ซึ่งเหมาะสมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ในระดับหนึ่ง ผู้สมัครทำงานในพื้นที่มาไม่ต่ำกว่า 2 ปีเกือบทุกคน
อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลมียุทธศาสตร์รักษาเขตเดิม เพิ่มเติมเขตใหม่และในเขตที่มีเจ้าของพื้นที่อยู่เดิมนั้น ส่วนใหญ่แล้ว พรรคก้าวไกลได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ซึ่งพบว่าแพ้ไม่ถึงร้อยละ 5 เพราะฉะนั้นพรรคก้าวไกลเชียร์ขึ้นแน่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"บิ๊กตู่" เปิดใจไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์เหตุงานเยอะ อยู่ไม่ถึง 2 ปีมี "พีระพันธุ์"ตัวแทน
"ประวิตร" บอก ยังไม่มีเบอร์ในใจแต่ขอให้ได้เลขตัวเดียว ยันไม่ร่วมดีเบต
กกต.เตือน ส.สได้เบอร์ "อย่าแห่หาเสียง" 7 เม.ย.ลุ้นศาลปมแบ่งเขต
