เลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 ถือเป็นการผลัดใบครั้งใหญ่ในเมืองชาละวัน คนจากตระกูลใหญ่ไม่มีปรากฏในรายชื่อ ส.ส.เขตเลย แต่เป็นหน้าใหม่ทั้ง 3 เขต แม้แต่ตระกูลภัทรประสิทธิ์ ของประมุขใหญ่ นายประดิษฐ์ อดีต รมช.คมนาคม และอดีต รมช.คลัง ที่ส่งคนลงสมัครพรรคไทยรักษาชาติ แต่ถูกศาลสั่งยุบก่อนวันเลือกตั้ง ครั้งนี้จึงหมายมั่นปั้นมือจะแก้ตัวให้ได้
นายประดิษฐ์ เข้าสู่เวทีการเมืองโดยการชักชวนของ เสธ.หนั่น เป็นส.ส.พิจิตร มาตั้งแต่ปี 2538 และได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้เป็นทายาททางการเมืองในตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลาต่อมา
เขายังเป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย ทั้งตลาดค้าส่งผัก-ผลไม้ ย่านรังสิต ทั้งตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง เจ้าของโรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ เคยร่วมถือหุ้นในเดอะมอลล์ กับตระกูลอัมพุช และลิปตพัลลภ
ปี 2560 เคยตกเป็นข่าวกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ข้อหาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน หลังจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร นำเงินจากการการยักยอกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นไปซื้อที่ดิน แล้วขายต่อให้นายอนันต์ แล้วพบว่านายประดิษฐ์เป็นเจ้าของที่ดินผืนดังกล่าว
แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ใช่เครือข่ายวัดพระธรรมกาย แต่ซื้อที่ดินจากนายอนันต์ เพื่อบล็อกคู่แข่งไม่ให้ทำตลาดค้าส่งผัก-ผลไม้ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
ขณะที่เครือข่ายทางการเมืองของตระกูลภัทรประสิทธิ์ ยังเข้มแข็งใน จ.พิจิตร ยึดตำแหน่งสำคัญๆ ทั้งนายก อบจ.พิจิตร มี ส.จ.ในสังกัดหลายคน อยู่ในสังกัด
ล่าสุด ได้รับมอบหมายให้เป็นขุนพลใหญ่ในพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยสู้ศึกเลือกตั้ง เตรียมผู้สมัครทั้งจากตระกูลภัทรประดิษฐ์ ในเขต 1 เขต 2 ส่วนในเขต 3 คือลูกยอด นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชายเสธ.หนั่น
แต่คู่ต่อสู้ใน จ.พิจิตร ล้วนแล้วแต่ระดับ “เก๋าเกม” และ “เขี้ยวลากดิน” ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะพรรคเพื่อไทย นำโดยนางสุนีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการพรรค พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย 2 พ่อลูก นายไพทูรย์และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รวมทั้งต้องเจอกับส.ส.รุ่นผลัดใบ ปี 2562 ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์การสู้กับพลังศรัทธาของคนรุ่นใหม่
หากแก้มือไม่สำเร็จ หรือแพ้พลังคนรุนใหม่ บทบาทนายประดิษฐ์ อาจยุติลงเพียงแค่นี้
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
ขอบคุณภาพจากเพจ Like Anutin