วันนี้ (16 มี.ค.2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบและติดตามสถานการณ์กรณีเรือ FSO BENCHAMAS 2 ของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด น้ำทะเลเข้าตัวเรือ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รอบคอบ รัดกุม ไม่ให้เกิดผลกระทบลุกลาม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรือกักเก็บปิโตรเลียม “เบญจมาศ 2 หรือเรือ FSO BENCHAMAS 2” เป็นเรือเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ ที่บริษัทฯ เช่ามา มีกำลังพล 29 นาย และน้ำมันดิบประมาณ 400,000 บาเรล โดยขณะทำการปิดผนึกท่อทางดูดน้ำทะเลด้วยลูกอุดลม และถอดวาล์ว เพื่อบำรุงรักษาตามปกติบริเวณห้องเครื่องจักรใหญ่ใต้แนวน้ำ ลูกอุดลมดังกล่าวเกิดระเบิด ทำให้น้ำทะเลเข้าตัวเรือ มีผู้เสียชีวิต 1 นาย ตำบลที่เรืออยู่ในแบริ่ง 171 ระยะ 129 ไมล์ จากปลายแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ
บริษัทฯ ได้ประสานขอรับการสนับสนุน และความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ เพื่อดำเนินการปิดผนึกท่อทางดูดน้ำทะเลและกู้ร่างผู้เสียชีวิต โดยวันที่ 15 มี.ค. กำลังพลของกองทัพเรือได้ออกเดินทางเข้าพื้นที่ปฏิบัติการ และคาดว่าจะถึงในเวลา 06.00 น. ของวันที่ 16 มี.ค.2566
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมปฏิบัติการช่วยเหลือได้เตรียมแผนการปฏิบัติตาม Scenario จากเบาไปหาหนัก ได้แก่ อุดเรือได้สำเร็จน้ำไม่เข้าเรือเพิ่ม, มีน้ำเข้าเรือเพิ่มเติม และตรวจพบน้ำมันรั่วไหล ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึงจะดำเนินการสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุ และจะเข้าปฏิบัติเมื่อประเมินแล้วมีความปลอดภัย ซึ่งจากรายงานสถานภาพเรือล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. ตัวเรือมีความปลอดภัยสถานะคงที่ ลูกเรือบนเรือปลอดภัย น้ำมันดิบในเรือไม่มีการรั่วไหล และสภาพอากาศปกติ
นายกฯ แสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย และกำชับให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สถานการณ์ในขณะนี้ตัวเรือมีความปลอดภัยและไม่มีน้ำมันดิบในเรือรั่วไหล แต่อย่างไรก็ดี นายกฯ สั่งการให้ดำเนินการด้วยความรัดกุม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และสิ่งแวดล้อมทางทะเลชายฝั่ง