นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในปี 2566 กรมสรรพากรมีนโยบายดึงธุรกิจหรือบุคคลที่เคยอยู่นอกระบบภาษี ให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีมากขึ้น โดยปี 2565 สามารถดึงคนนอกระบบเข้าสู่ระบบมากถึง 200,000 ราย
กรมสรรพากรได้ตั้งกองสำรวจธุรกิจนอกระบบ ทำหน้าที่ดึงคนเข้าระบบภาษีเป็นการเฉพาะ กลุ่มเป้าหมายคือผู้มีรายได้มากจากออนไลน์ เช่น พ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ เพื่อขยายฐานผู้เสียภาษีให้มีจำนวนมากขึ้น เมื่อมีรายได้ก็มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้
ทั้งนี้ จะนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกในการเก็บภาษี เพื่อสนับสนุนให้คนเข้าระบบได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมาไม่เข้าระบบเพราะไม่เข้าใจ และกังวลความยุ่งยากในการยื่นโดยตรง
แต่หากเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กรมสรรพากรจะช่วยประคับประคองไม่ให้ภาษีเป็นภาระต่อการทำธุรกิจมากจนเกินไป เพราะหลายธุรกิจยังคงได้รับผลกระทบ หรือเพิ่งฟื้นตัว โดยแผนการประคับประคองดังกล่าวจะเป็นแผนแบบปีต่อปี
สำหรับผลการจัดเก็บในปีงบประมาณ 2566 กรมสรรพากรคาดว่าจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย 2.2 ล้านล้านบาท โดย 4 เดือนแรกของปีงบประมาณจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายไปแล้วประมาณ 60,000 ล้านบาท ภาษีที่เพิ่มขึ้นมาจากภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ การจับจ่ายและนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ไม่ใช่จากการเก็บภาษีนำเข้าราคาพลังงานที่มีราคาสูง
อ่านข่าวอื่นๆ
ธุรกิจโรงแรมห้วยขวางยอดจองพุ่ง 70% ขานรับทัวร์จีน
"ค่าไฟแพง" กระทบใช้จ่ายประชาชน-เอกชนจี้รัฐ "ลดค่าไฟ"
อย่าเชื่อ SMS กดลิงก์ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5" โครงการยังไม่เริ่ม