ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากยูเครนและแรงกดดันจากชาติตะวันตก รถถังของทั้ง 2 ประเทศน่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในสงครามครั้งนี้
หลังจากมีทั้งเสียงเรียกร้องจากยูเครนและแรงกดดันจากพันธมิตรชาติตะวันตก ในที่สุดนายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่ถูกวิจารณ์หนักเรื่องการเตะถ่วงการส่งรถถังให้ยูเครนก็พ่ายต่อเสียงเรียกร้องเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.66)
ไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาประกาศแผนการส่งรถถังให้ยูเครนเช่นกัน ซึ่งรถถังประสิทธิภาพสูงเหล่านี้น่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพสกัดกั้นการรุกคืบของกองทัพรัสเซียในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลได้
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศส่งรถถัง M1 Abrams จำนวน 31 คัน ให้แก่ยูเครน มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว 13,091 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย ถือเป็นการตอบรับคำร้องขอของทางการยูเครนที่มีมายาวนาน ในสงครามที่ยืดเยื้อมาแล้ว 11 เดือนเต็ม
การออกมาประกาศข่าวดีสำหรับยูเครน ที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจาก Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศจัดส่งรถถัง Leopard 2 จำนวน 14 คัน จากคลังของกองทัพให้ยูเครน เป็นขั้นแรก
หลังจากเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากชาติพันธมิตรตะวันตกมานานหลายสัปดาห์ เพื่อให้ยูเครนใช้รับมือกับการรุกคืบของรัสเซีย พร้อมทั้งขอให้ชาวเยอรมันเชื่อมั่นในตัวเขาและรัฐบาล และย้ำว่า ต้องป้องกันไม่ให้สงครามในยูเครนลุกลามกลายเป็นสงครามระหว่างนาโตและรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ ผู้นำเยอรมนีตั้งเงื่อนไขว่าจะส่งรถถัง Leopard 2 ให้ยูเครน ก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ ยอมส่งรถถัง M1 Abrams ให้ยูเครน
นอกจากนี้ สเปนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแผนส่งรถถัง Leopard 2 ให้ยูเครน ซึ่งปัจจุบันสเปนมีรถถัง Leopard 2 ในคลังอยู่ 180 คัน หลังจากเยอรมนียังเปิดทางให้โปแลนด์ ฟินแลนด์ และพันธมิตรส่งรถถัง Leopard 2 ให้ยูเครนใช้สกัดกั้นการรุกคืบของรัสเซีย เนื่องจากการส่งรถถังรุ่นนี้ให้ประเทศที่ 3 จำเป็นจะต้องได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลเยอรมนีในฐานะผู้ถือใบอนุญาตส่งมอบก่อน
รถถัง Leopard 2 เป็นรถถังหลักของกองทัพเยอรมนี และเป็นสิ่งที่ยูเครนยืนยันว่าจะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมหาศาลในทิศทางของสงคราม
รถถังรุ่นนี้พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Krauss-Maffei Wegmann ร่วมกับ Rheinmetall ตั้งแต่ปี 1978 ทำความเร็วสูงสุด 72 กม. ต่อ ชม.ทำให้มีความคล่องแคล่วในสมรภูมิรบเป็นอย่างมาก ปืนใหญ่รถถังขนาด 120 มม.ถือเป็นอาวุธหลักและสามารถโจมตีเป้าหมายในระยะ 5 กม.อย่างแม่นยำ
ส่วนรถถัง M1 Abrams ถูกจับตามองอย่างมาก เพราะประสิทธิภาพสูงจนขึ้นแท่นรถถังที่ดีที่สุดในโลก เป็นรถถังที่กองทัพสหรัฐฯ ใช้งานเป็นหลักมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980
การขับเคลื่อนของรถถังรุ่นนี้ทำความเร็วได้ดี เนื่องจากใช้เครื่องยนต์กังหันแก๊ส หรือเครื่องยนต์เจ็ต และใช้เชื้อเพลิงได้หลากหลายชนิด
นอกจากนี้ เครื่องกระสุนในรถถังดังกล่าวยังบรรจุไว้แยกกับจุดที่กำลังพลอยู่ในรถถัง ทำให้โอกาสการรอดชีวิตหากถูกศัตรูโจมตีมีมากกว่า และที่สำคัญ เกราะของรถถังรุ่นนี้ยังพิเศษตรงที่สามารถป้องกันหรือลดประสิทธิภาพการโจมตีของอาวุธต่อต้านรถถัง ด้วยการทำให้อาวุธนั้นระเบิดออกที่ด้านนอก ทำให้กำลังพลที่อยู่ด้านในยังปลอดภัย
ถ้าเทียบกับรถถังรัสเซีย ซึ่งเป็นรถถังยุคอดีตสหภาพโซเวียต ที่ยูเครนมีใช้เช่นกันรถถังรัสเซียคันเล็กกว่า ช้ากว่า ใช้เครื่องยนต์ดีเซลและเสี่ยงเกิดระเบิดมากกว่าหากถูกอาวุธต่อต้านรถถังโจมตี และยังเสี่ยงอันตรายต่อกำลังพลภายใน เพราะเครื่องกระสุนมีโอกาสจะระเบิดขึ้นหากถูกโจมตี
ด้านโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวขอบคุณพันธมิตรชาติตะวันตกที่ให้การช่วยเหลือครั้งสำคัญครั้งนี้
ขณะที่วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องนี้ แต่รัฐบาลรัสเซียระบุว่า รถถังของชาติตะวันตกจะหมกไหม้ลงในยูเครน ไม่ต่างจากยุทโธปกรณ์อื่นๆ พร้อมวิจารณ์ว่านี่เป็นความเคลื่อนไหวที่โง่เขลาและราคาแพง
วิเคราะห์ : วินิจฐา จิตร์กรี