วันนี้ (17 ม.ค.2566) เมื่อเวลา 16.00 น.นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงศ์ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า แถลงความคืบหน้ากรณีเหตุเรือสมูธซี 22 ระเบิดและเพลิงไหม้บริเวณท่าเรือ จ.สมุทรสงครามว่า เรือสมูธซี 22 เป็นกลเดินทะเลเฉพาะเขต หมายเลขทะเบียนเรือ 620000791 ขนาด 2,998 ตันกรอส โดยใบอนุญาตใช้เรือตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.2565 หมดอายุวันที่ 30 พ.ค.2566
เกิดเหตุระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้ ขณะจอดซ่อมบำรุงตามวงรอบข้อบังคับการตรวจเรือของกรมเจ้าท่า บริเวณอู่เรือบริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบการอู่ต่อเรือเมื่อปี 2561

โดยเรือดังกล่าวเป็นเรือที่มีการบรรทุกน้ำมัน แต่ในขณะเกิดเหตุเป็นเรือเปล่า ส่วนบนเรือยังมีน้ำมันเตา 30,000 ลิตร ดีเซลคงค้าง 2,500 ลิตร สำหรับใช้ในการเดินเรือ
และมีประกันภัย H&M (การประกันเรือและเครื่องยนต์) คุ้มครองถึงวันที่ 26 มี.ค.2566 วงเงิน 60 ล้านบาท และประกันภัย P&I (การดูแลสถานการณ์หากเกิดเหตุภายนอก) คุ้มครองถึงวันที่ 20 ก.พ.2566 วงเงิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ยันเตรียมขึ้นอู่ตรวจสอบตามวงรอบ
นายภูริพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือเปล่า กำลังขึ้นอู่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เป็นเรือที่ต่อเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ในการบรรทุกมีจุดรอบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส บรรทุกดีเซลและน้ำมันดิบ ซึ่งมีความไวไฟ
หลังจากนี้ต้องตรวจสอบว่า อู่ต่อเรือดังกล่าวมีมาตรการรัดกุมในการนำเรือขึ้นอู่หรือไม่ และสาเหตุเกิดจากความไม่สมบูรณ์ในการล้างถัง หรือฟรีแก๊ส (การไล่ไอระเหยออกจากระวาง) ก่อนขึ้นอู่หรือไม่
โดยจะมีการตั้งกรรมการมาสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริง คาดว่าจะทราบผลการสอบสวนใน 10 วัน
ไทยพีบีเอส สอบถามกรณีที่เป็นเรือเปล่า เหตุใดจึงเกิดเพลิงไหม้ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า ระบุว่า ยังไม่สามารถตอบได้ สาเหตุที่เรือเกิดเหตุต้องรอการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจากผู้เชี่ยวชาญ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้
ส่วนก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมี.ค.2565 เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้กับเรือ สมูธ ซี 22 ยืนยันว่า เป็นบริษัทเดียวกัน หลังจากนี้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อนว่าเป็นเรื่องที่บกพร่องจากการควบคุมหรือไม่ เป็นหน้าที่คณะกรรมการตจรวจสอบต่อไป
เบื้องต้นที่ได้รับรายงานขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 3 บาดเจ็บ 1 คน ยังไม่สามารถระบุสัญชาติได้ต้องรอการตรวจสอบก่อน
อ่านข่าวเพิ่ม ไฟไหม้ "เรือบรรทุกน้ำมัน" สมุทรสงคราม ช่างเครื่องกระโดดน้ำหนีตาย

ปิดอู่เรือ-สอบใบอนุญาต
นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าฯ ได้สั่งการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ออกคำสั่งปิดอู่เรือที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบใบอนุญาตอู่เรือทั้งหมด หากพบไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยัง สั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ และมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน
ทช.ยังไม่พบคราบน้ำมั่นรั่วลงทะเล
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอนิเตอร์เรื่องสิ่งแวดล้อมตกค้างกับทรัพยากรทางทะเลในจุดเรือระเบิด โดยเฉพาะเรื่องคราบน้ำมันรอบๆพื้นที่ เบื้องต้นยังไม่พบปัญหาคราบน้ำมันรั่วไหลลงทะเล
ขณะที่แผนการกู้เรือ และน้ำมันเตา 30,000 ลิตรที่อยู่ในบนเรือ ทางกรมเจ้าท่าและหน่วยงานต่างๆ ต้องหารือกับหน่วยงานที่มีความพร้อม ซึ่งเบื้องต้นน้ำมันยังอยู่ระบบแทงก์ปิดบนเรือ ยังไม่มีการรายงานรั่วไหลลงในทะเล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง