กรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำคดีของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรถยนต์หรู เบนท์ลีย์ พุ่งชนรถผู้อื่นบนทางด่วน 3 คันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน
วันนี้ (11 ม.ค.2566) มีรายงานว่าหลังจากคนขับรถเบนท์ลีย์ ไม่อนุญาตให้เป่าวัดแอลกอฮอล์ในวันเกิดเหตุ โดยอ้างว่ามีอาการเจ็บหน้าอก แต่มีการให้ตรวจเลือดเพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในภายหลัง
ขณะเดียวกัน มีรายงานที่อ้างว่า เป็นภาพหลักฐานจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นพยาน บันทึกภาพ ขณะที่ผู้ก่อเหตุเดินทางไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ที่โรงพยาบาลตำรวจ และมีข้อมูลพาดพิงว่า ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยที่ช่วงเวลาบันทึกภาพ ห่างจากช่วงเวลาเกิดเหตุราว 5 ชั่วโมง
ล่าสุดมีรายงานผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดไม่ถึง 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากมีการใช้ทฤษฎีคูณย้อนกลับไปหาช่วงเวลาเกิดเหตุวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่เบนท์ลีย์ จะอยู่ที่ไม่เกิน 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) โดยจะมีการแถลงรายละเอียดวันนี้
อ่านข่าวเพิ่ม ตั้ง กก.สอบการทำคดี "เบนท์ลีย์" ขับชนบนทางด่วน
ส่วนการตรวจสอบความเร็วอยู่ที่การตรวจสอบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนยังมีการเรียกตัวผู้ขับขี่ รวมถึงผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม
ปัดคนดีเอสไอเอี่ยวคดีขับรถหรู
พ.ต.ท.โวรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) บอกว่า ยังไม่ทราบว่ามีการพาดพิงดังกล่าวเกิดขึ้น ขอไปตรวจสอบข้อมูลก่อน โดยเฉพาะที่ปรากฎในสื่อ
ขณะที่พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผู้บังคับการตำรวจจราจร ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องผลการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด และยังไม่ได้รับรายงานว่า มีบุคคลที่อ้างตัวว่าสังกัดดีเอสไอ เข้ามาเกี่ยวข้อง
ยืนยันว่า ตำรวจท้องที่ได้ทำเอกสารเรื่องการส่งตรวจไปตามขั้นตอน และมีเจ้าหน้าที่ติดตามไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วย
วันนี้จะมีประชุมความคืบหน้าของคดี ขณะที่การตรวจสอบไปยังกระทรวงยุติธรรม แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ดูภาพแล้ว ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ตัวเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.เผยคนขับเบนท์ลีย์เจ็บหน้าอก ให้ตรวจเลือดแทนเป่าวัดแอลกอฮอล์