วันนี้ (25 ธ.ค.2565) เวลา 11.00 น. พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 พร้อมด้วย พล.ร.ต.รังสรรค์ บัวเผือก เสนาธิการทัพเรือภาค 1 แถลงความคืบหน้าภารกิจค้นหาลูกเรือหลวงสุโขทัย ระบุว่า เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.2565) เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิต 2 คน โดยขณะนี้อยู่ที่เรือหลวงกระบุรีซึ่งกำลังรอเฮลิคอปเตอร์ไปรับร่าง และอยู่ที่เรือหลวงนราธิวาสซึ่งจะเข้ามารับการส่งกำลังบำรุงช่วงเวลา 14.00 - 15.00 น.
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ยังได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเสร็จเพิ่มอีก 1 นาย ทราบชื่อ คือ พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร โดยร่างอยู่ที่ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะนำร่างไปที่ อ.สัตหีบ ส่งให้แก่ครอบครัวต่อไป
สรุป ร่างที่รอพิสูจน์ที่อยู่นิติเวชแล้ว 6 คน และจะขึ้นมาอีก 2 คน นี่คือผลดำเนินการในส่วนที่พบผู้ประสบภัย
ภารกิจวันที่ 7 โฟกัสชายฝั่ง 3 จังหวัดค้นหา 16 นาย
ส่วนภารกิจค้นหาในวันที่ 7 นี้ จะประกอบไปด้วยเรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงนเรศวร และอากาศยาน เฮลิคอปเตอร์จากหน่วยงานต่าง ๆ โดยจะโฟกัสและเข้มข้นที่บริเวณชายฝั่ง โดยจะปูพรมตั้งแต่บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไป จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี และระดมพลเดินเท้า
พล.ร.ท.พิชัย ระบุอีกว่า ศูนย์อำนวยการรักษาประโยชน์แห่งชาติทางทะเล ภาค 2 จ.สุราษฎร์ธานี ได้จัดตั้งศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยส่วนหน้า ที่ อ.ท่าชนะ ซึ่งมีกำลังพลพร้อมเดินหน้าค้นหาผู้ประสบภัยเช่นเดียวกัน
วันนี้คลื่นลมค่อนข้างแรง เรือหลวงบางระจันทร์เชือกขาด ได้ขอเชือกและยางกันกระแทกมาเสริมแล้ว จึงยังไม่ได้ปฏิบัติราชการในวันนี้ เช่นเดียวกับเรือหลวงนาวี และชุดประดาน้ำ เนื่องจากไปปฏิบัติงานยังไม่ได้
ส่วนทีมแพทย์พิสูจน์อัตลักษณ์นั้น ล่าสุด พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้จะจัดชุดนิติเวชที่มาครั้งแรก กลับมาที่ จ.ประจวบฯ ในวันจันทร์นี้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ส่วนคนที่ 7 พล.ท.วรพงศ์ จะรับจากนิติเวช ไป อ.สัตหีบ เพื่อประกอบพิธีต่อไป
ทั้งนี้ พล.ร.ท.พิชัย ยืนยันว่า ขณะนี้หมู่ช่วยเรือที่ 2 กำลังติดตามข่าวอากาศอย่างใกล้ชิด หากพร้อมเมื่อใดที่จะลงปฏิบัติภารกิจได้ แม้คลื่นลมแรง ก็จะลงทันที แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย
ญาติ จ.ท.สหรัฐ เป็นลม ระหว่างติดตามภารกิจค้นหา
ขณะที่เวลา 09.00 น. เกิดเหตุหญิงอายุ 60 ปี ญาติของครอบครัว จ.ท.สหรัฐ อีสา หนึ่งใน 22 ผู้สูญหาย เกิดอาการเป็นลม หน้ามืด เนื่องจากมีโรคประจำตัวหอบหืด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลบางสะพาน โดยนางมาลินี ผุดผ่อง น้าของ จ.อ.สหรัฐ บอกว่า ครอบครัวเดินทางมาติดตามข่าวการค้นหานาน 7 วัน พร้อมทำพิธีตามความเชื่อ หวังปาฏิหาริย์พบหลานชายรอดชีวิต และน้าอีกคนที่มารอฟังข่าวไม่ยอมกินข้าว ประกอบกับมีโรคประจำตัวจึงหน้ามืด เป็นลม "กังวลทุกวัน แต่ยังหวังให้เขาไปอยู่ที่ใดที่หนึ่งของเกาะ"
