วันนี้ (21 ธ.ค.2565) เวลา 19.30 น. กองทัพเรือ แพทย์นิติเวช และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับกำลังพลผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน
พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างลายนิ้วมือมาเปรียบเทียบเพื่อยืนยันตัวบุคคล ล่าสุด พิสูจน์อัตลักษณ์ได้แล้วทั้ง 6 นาย ได้แก่ พ.จ.อ.สมเกียรติ หมายชอบ, จ.อ.จักรพงค์ พูลผล, ร.ท.สามารถ แก้วผลึก, พ.จ.อ.อัชชา แก้วสุพรรณ์, พลฯอัครเดช โพธิ์บัติ และ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที
ด้าน พ.ต.อ.พญ.ณปภัช ณัฏฐสุมน นายแพทย์ (สบ.5) หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า กระบวนการตรวจสอบสามารถตรวจเก็บลายนิ้วมือได้ทั้ง 6 นาย แต่หลังจากนี้อาจมีการเน่าเปื่อยมากขึ้นซึ่งการพิสูจน์อัตลักษณ์ก็อาจมีขั้นตอนมากขึ้น โดยปกติแล้ว จะใช้เวลา 3-7 วันในการเก็บตัวอย่าง หลังได้ผลมา จะเปรียบเทียบกับญาติ และออกผลมาว่าตรงหรือไม่ ซึ่งการตรวจพิสูจน์ขึ้นอยู่กับตัวอย่างด้วย
สำหรับสภาพร่างของกำลังพลนั้น บางนายสามารถจำหน้าได้ บางนายความเน่าเปื่อยค่อนข้างมาก แต่ลายนิ้วมือยังตรวจได้ ส่วนดีเอ็นเอตรวจได้ทั้งจากฟันและกระดูก
สาเหตุการเสียชีวิตของทหารทั้ง 6 นาย เบื้องต้น สันนิษฐานว่า เป็นการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำทั้งหมด
ชี้แจงปมรายชื่อผู้เสียชีวิต-สูญหายคลาดเคลื่อน
ขณะที่ พล.ต.ต.กำธร อุ่ยเจริญ ผบก.ศพฐ.7 ระบุว่า กระบวนการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล จะตรวจจากดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ลายนิ้วมือแฝง ข้อมูลทางกายภาพ ข้อมูลของพนักงานสอบสวน ก่อนจะนำข้อมูลทั้งหมดมารวบรวม แล้วพิสูจน์กับฐานข้อมูลที่เก็บไว้ รวมถึงข้อมูลที่เก็บจากญาติที่เข้ามา ซึ่งเป็นญาติสายตรง พ่อ แม่ และลูก มายืนยันอีกครั้ง
ในกระบวนการพิสูจน์ ทั้ง 6 นาย ใช้ลายนิ้วมือแฝง มาตรวจเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลในระบบกรมการปกครอง ซึ่งดูจากนิ้วโป้งซ้ายและขวา กรณีนี้สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรายใด แล้วจะมีการรับรอง และออกหนังสือรับรองการตาย และใบมรณบัตรต่อไป
การนำร่างเข้ามา มีขั้นตอนในการทำประวัติ ถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือ หากร่างเน่าเปื่อยจะใช้เทคนิคพิเศษ โดยแพทย์ทางนิติเวชจะผ่าอีกครั้ง แล้วเก็บดีเอ็นเอ ส่วนผู้สูญหายอีก 23 นายทางกองทัพเรือได้พยายามติดต่อญาติให้เข้ามาเพื่อเก็บดีเอ็นเอไว้ก่อนด้วยเช่นกัน
สำหรับกรณี พ.จ.อ.สมเกียรติ หมายชอบ ที่มีกระแสข่าวความคลาดเคลื่อนเรื่องรายชื่อนั้น เบื้องต้น ไม่ได้ติดตามข่าวจึงไม่ทราบกรณีที่เกิดขึ้น แต่จะขอไปตรวจสอบอีกครั้ง แล้วจะมารายงานต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบอัตลักษณ์เจ้าหน้าที่ใช้ฐานข้อมูลของผู้สูญหายทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะผู้เสียชีวิต 6 นายเท่านั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบแล้วพบว่าเป็น 6 นายที่ปรากฏรายชื่อออกมา แต่ก่อนหน้านี้อาจจะมีการดูแล้วประเมินด้วยสายตาในเชิงกายภาพเท่านั้น หลังจากนี้จะมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น