วันนี้ (9 พ.ย.2565) ความคืบหน้ากรณีที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แจ้งให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยใช้เงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เพื่อพิจารณาสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด รวมภาษีมูลค่า 42 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ 1,600 ล้านบาท
หลังล่าสุด คณะกรรมการ กสทช. เสียงข้างมาก 4 : 2 เสียง อนุมัติเงินกองทุน กทปส.จำนวน 600 ล้านบาท ให้ กกท.ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย
ประธาน กสทช.ออกเอกสารชี้แจงโดยให้เหตุผลสำคัญว่า ในการอนุมัติงบประมาณจำนวน 600 ล้านบาทเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน ในการรับชมแบบฟรีทีวีทุกแพลตฟอร์ม เพื่อจะได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
ขณะที่ คณะกรรมการเสียงข้างน้อย ทั้ง 2 คน ได้แก่ ศ.พิรงรอง รามสูตร และ นายศุภัช ศุภชลาศัย ให้เหตุผลว่า การอนุมัติงบประมาณดังกล่าว อาจไม่เข้าข่ายวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส.ดังที่ควรจะเป็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนี้ไปต้องติดตามต่อไปว่า เมื่อ กสทช.อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท ในการจัดซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก ไปแล้ว โดย กกท.ซึ่งของบประมาณราว 1,600 ล้านบาท โดยเงินจำนวนที่เหลืออีกราว 1,000 ล้านบาท กกท.จะต้องเป็นผู้ดำเนินการหามาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถจัดซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกราว 1,600 ล้านบาท ได้รวมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีนักวิชาการจากหลายสถาบัน ออกแถลงการณ์คัดค้านนำเงินกองทุน กทปส.จำนวน 1,600 ล้านบาท มาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก โดยให้เหตุผลว่า ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองทุน "กทปส." และไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะ