ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมเอเปคที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่มีการปิดการจราจรชั่วคราวระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย. เส้นทางถนนรัชดาภิเษก หน้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่แยกอโศกมนตรี - แยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ ตลอดสายและตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังปิดใช้บริการสถานี MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย. ด้วยการงดจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร จากปกติสถานีจะมีผู้ใช้บริการประมาณ 250,000-300,000 คนต่อวัน แต่เจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย หรือทำงานบริเวณใกล้เคียง โดยเปิดให้ลงทะเบียนผู้พักอาศัย จัดรถบัสรับ-ส่ง 6 คัน
ผู้ใช้เส้นทางใกล้ศูนย์ประชุมฯ สับสนการเดินทาง
ทีมข่าวไทยพีบีเอส สอบถามผู้พักอาศัยย่านคลองเตย บางส่วนยังไม่ทราบความชัดเจนและไม่สามารถวางแผนการเดินทางใหม่ได้
ผู้โดยสารรถไฟฟ้าคนหนึ่ง กล่าวว่า จะจัดการชีวิตแบบใหม่คิดว่าคงต้องไปดูหน้างาน เพราะไม่มีการสื่อสารที่ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นี้เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร รู้แต่ว่าต้องลงทะเบียน และไม่ทราบเวลาปิดเปิดหรือปิด 24 ชั่วโมงหรือไม่ เพราะฉะนั้นชาวบ้านแทบไม่รู้อะไรเลยนอกจากการปิดถนนและมีการประชุมที่นี่
ผู้โดยสารรถไฟฟ้าอีกคนหนึ่ง ระบุว่า ได้รับผลกระทบ เพราะต้องลงที่สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ทุกวัน แต่ทางออฟฟิศก็ให้ไปลงสถานีใกล้เคียงและเดินมา ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง อาจทำให้ต้องเผื่อเวลาเดินทางเพื่อมาทำงานให้ทัน ขณะเดียวกันแผนกที่ทำงานอยู่มีการพูดคุยเรื่อง Work From Home ซึ่งคิดว่าน่าจะช่วยได้มากขึ้น
ส่วนผู้ค้าและจักรยานยนต์รับจ้างในละแวกนั้น แม้จะเข้าใจถึงความจำเป็นในการปิดการจราจร แต่ยอมรับว่าคงจะขาดรายได้ไปหลายวัน
ผู้ค้าคนหนึ่ง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่แจ้งให้งดการค้าขายในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ส่วนตัวคิดว่าขายไม่ได้ เพราะมีการปิดสถานีและปิดถนนทำให้ไม่มีลูกค้า ส่วนรายได้ที่หายไป แม้จะรู้สึกเครียดในช่วงแรก แต่ก็หาทางแก้ไขโดยไปขายในจุดอื่นและลดจำนวนอาหารที่จะขายลง
ขณะที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง สะท้อนว่า อาจทำให้ขาดรายได้ในช่วง 3-4 วันที่มีการปิดถนนและส่วนตัวก็คงไม่ได้ขับรถให้บริการในช่วงนี้ เพราะไม่สามารถไปรวมกับวินอื่นได้
ขณะเดียวกันสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มีคำสั่งห้ามบินโดรนในวันที่ 13-21 พ.ย.นี้ ในระยะ 19 กิโลเมตรจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ความสูงตั้งแต่ 0-3,000 ฟุตจากพื้นดิน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตั้งด่านตรวจเส้นทางจากภาคใต้ สกัดบุคคลต้องสงสัย
ขณะที่เส้นทางถนนหมายเลข 4 ถนนสายหลักจาก 14 จังหวัดภาคใต้ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เป็นอีกเส้นทางที่ถูกกำหนดเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้บุคคลที่จะเข้าไปก่อเหตุต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงการประชุมเอเปค
บริเวณด่านจุดตรวจความมั่นคงด่านห้วยยาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่บูรณาการเข้าเวรที่จุดตรวจสลับทุกๆ 8 ชั่วโมง มีระบบคอมพิวเตอร์และจุดควบคุมดูแลกล้อง CCTV
ส่วนข้อมูลบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า ด่านตรวจจะแบ่งเป็นจุดๆ จุดแรกตรวจรถเข้าข่ายต้องสงสัย จุดที่ 2 ตรวจสอบเอกสาร หากเข้าข่ายจะนำเข้าจุดตรวจค้นสแกนใบหน้าทุกคนในรถ จากนั้นจะเชิญเข้ามาสอบสวนส่งข้อมูลไปยังส่วนกลาง และจุดสุดท้าย เป็นจุดเฝ้าระวังพร้อมอาวุธ ที่พร้อมปฏิบัติงานได้ทันทีหากเกิดกรณีฉุกเฉิน
นอกจากนี้มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกหาข่าวความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ทั้งตามโรงแรม รีสอร์ท ร้านขายปุ๋ยและสารเคมีต่างๆ ว่าในช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา มีบุคคลต้องสงสัยเข้าพัก หรือซื้อสารเคมีหรืออุปกรณ์ใดหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบความเคลื่อนไหว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดถนนแยกอโศก-แยกรัชดา-คลองเตย 14-19 พ.ย.ประชุมเอเปค
"สุวรรณภูมิ" จัดโซนจอดรถฟรี 7 วันช่วง APEC ตั้งแต่ 15-21 พ.ย.นี้