กาตาร์เดินหน้าจัด "บอลโลก" เมินคำประท้วงด้านสิทธิมนุษยชน

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2565 ชีค มูฮัมเหม็ด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อัษษานี (Sheikh Mohammed bin Abdulrahman bin Jassim Al-Thani) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐกาตาร์เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศทั่วโลกว่า แม้กาตาร์จะกำลังเผชิญกับคำครหาต่างๆ ทั้งในเรื่องสิทธิมนุษยชน การประท้วงเชิงสัญลักษณ์จากสมาคมฟุตบอล การใช้แรงงานต่างด้าวสร้างสนามฟุตบอล ความสัมพันธ์กับรัสเซียในฐานะผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ 

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่อาจทำให้กาตาร์ต้องยกเลิกการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้ โดย รมว.คนนี้ยังเสริมอีกว่า มีกลุ่มคนจำนวนน้อยมาก ไม่ถึง 10 ประเทศทั่วโลกด้วยซ้ำ ที่พยายามคว่ำบาตรการจัดงานฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ ในงานนี้เลย และความจริงในขณะนี้ก็คือ 

โลกกำลังตั้งตารอการเฉลิมฉลองครั้งนี้ แล้วตั๋วการเข้าชมก็ถูกขายออกไปมากกว่าร้อยละ 97 แล้ว

กาตาร์เป็นประเทศในตะวันออกกลางประเทศแรกที่ได้สิทธิเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งการแข่งขันรอบสุดท้ายจะถูกจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. - 18 ธ.ค.2565 แต่ตลอดระยะเวลาหลายปี ตั้งแต่ที่กาตาร์ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน กาตาร์ต้องเผชิญกับแรงกดดันมากมาย

 

"รัสเซีย" ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

แม้ทีมชาติรัสเซียจะถูกทั้ง FIFA และ EUFA ตัดสิทธิการแข่งขันในรายการต่างๆ เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่ช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์กับ ปธน.ปูติน โดยไม่สนใจกระแสต่อต้านรัสเซียจากชาติในยุโรป 

กาตาร์ ต้องขอบคุณ รัสเซีย ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เราต่างภูมิใจในความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ และจะเดินหน้าร่วมกันจนกว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้จะสิ้นสุด 

 

บังคับแรงงานต่างด้าวสร้างสนามแข่งขันหรูหรา

ด้วยความที่ประเทศกาตาร์ไม่ได้มีผู้ทำอาชีพแรงงานมากนัก กาตาร์เลือกจ้างผู้ใช้แรงงานต่างชาติจำนวนมากเข้ามา เช่น อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา เป็นต้น

แต่แรงงานต่างด้าวนี้กลับถูกทารุณกรรมอย่างโหดร้าย สำนักข่าว The Guardian เคยรายงานว่า ในช่วงปี 2021 มีแรงงานต่างด้าวเสียชีวิตจากการถูกใช้แรงงานอย่างทารุณ เพื่อสร้างสนามแข่งขันฟุตบอลที่หรูหรา ติดเครื่องปรับอากาศทั้งสนาม ไปมากกว่า 6,500 คน 

องค์กรสิทธิมนุษยชน เช่น แอมเนสตี ได้ออกมาประณามการทารุณกรรมแรงงานต่างด้าวของกาตาร์อย่างมาก และเรียกร้องให้ FIFA ต้องจ่ายเงินชดเชยสูงถึง 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับแรงงานเหล่านี้ด้วย 

ซึ่งเหตุการณ์นี้ ชีค มูฮัมเหม็ด ก็ได้ออกโรงปฏิเสธทันที และอ้างถึงอีกหลายประเทศในยุโรปว่า 

ทำไมถึงกล่าวโทษรัฐบาลกาตาร์เช่นนี้ด้วย ทั้งๆ ที่หลายประเทศในยุโรปเห็นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กด้วยซ้ำ

 

เสื้อประท้วงสีจางของทีมชาติเดนมาร์ก

DBU หรือ สหภาพฟุตบอลเดนมาร์ก กล่าวว่าที่ผ่านมา ทีมชาติเดนมาร์กพยายามจะเดินทางไปกาตาร์ให้น้อยที่สุด ด้วยเหตุผลคือ ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยโปรโมทรายการการแข่งขันนี้มากจนเกินไป  

และ DBU ยังไม่อนุญาตให้นักเตะทีมชาติพาครอบครัวเดินทางไปเชียร์อีกด้วย และย้ำเหตุผลว่า สหภาพฯ ไม่ได้กลัวว่านักเตะของพวกเขาจะเสียสมาธิ แต่ทางสหภาพฯ ไม่ต้องการให้มีการจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นเศรษฐกิจในกาตาร์เพิ่มด้วยเงินของเดนมาร์ก

นอกจากนั้น บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬาในเดนมาร์ก ผู้ผลิตเสื้อทีมชาติเดนมาร์ก กล่าวว่าชุดแข่งขันของทีมชาตินั้น จะเห็นโลโก้ต่างๆ จางมาก หรือแทบจะมองไม่เห็นเลย เพราะทางบริษัทไม่ต้องการให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า บริษัทของเขาและผู้สนับสนุนอื่นๆ จากเดนมาร์กนั้น ให้การสนับสนุนกาตาร์ เพราะรายการนี้จัดขึ้นบนความตายของคนหลายพันคน โดยชุดแข่งของทีมชาติเดนมาร์กจะมี 3 แบบ และแบบที่ 3 นั้น ทางบริษัทเลือกใช้สีดำสนิท เพื่อสื่อถึงการประท้วงกาตาร์ในเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย  

นอกจากเดนมาร์กที่เรียกร้องให้ กาตาร์ ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังมี อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ที่ร่วมกันเรียกร้องเช่นกัน 

 

เมินคำประท้วง เดินหน้าจัดเต็มความบันเทิง

เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2565 องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศกาตาร์ (Qatar Tourism) และสายการบินหลักของประเทศ ร่วมกับประธาน FIFA ได้ร่วมแถลงข่าวรายการความบันเทิงระดับโลกที่จะจัดขึ้นในช่วงการจัดการแข่งของฟุตบอลโลก 2022  ซึ่งมีทั้งการเปิดตัวชายหาดใหม่ล่าสุดของกาตาร์ การแสดงสดจากศิลปินระดับโลก เรือสำราญ และยังเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลามอีกด้วย และ FIFA เองก็ย้ำเสมอว่า 

ขอให้มุ่งเน้นไปที่เรื่องกีฬา อย่าเอาฟุตบอลโลกมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง

 

ที่มา : CNN, Reauter, Thelocal.dk, The Guardian