วานนี้ (27 ต.ค.2565) สำนักข่าว CNN ระบุแถลงการณ์จากสายการบิน LATAM Airlines ว่าเครื่องบินแอร์บัส A320 เที่ยวบิน LA1325 เส้นทางจาก เมืองซานติอาโก ประเทศชิลี สู่ เมืองอะซุนซิออง เมืองหลวงของปารากวัย ได้บินผ่านเขตสภาพอากาศแปรปรวน จนทำให้เครื่องบินของเที่ยวบินนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และต้องขออนุญาตบินลงฉุกเฉินที่สนามบินซิลวิโอ เปตติโรสซิ ของปารากวัย
ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดปลอดภัยดี
แถลงการณ์จากสายการบินสัญชาติชิลีระบุ และยังกล่าวขอโทษแก่ผู้โดยสารที่ทำให้การเดินทางในเที่ยวบินนี้ไม่ได้รับความสะดวกสบาย เนื่องจากเส้นทางการบินที่บินผ่านเขตสภาพอากาศแปรปรวน
ผู้อำนวยการของการบินพลเรือนชิลีรายงานว่า ในเที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารทั้งหมดเพียง 48 คน และในขณะนี้ เจ้าหน้าที่การบินของปารากวัยและหน่วยงานพิเศษของชิลีได้ร่วมกันเข้าสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
เที่ยวบินระทึกของผู้โดยสาร
ตอนที่เครื่องใกล้จะลงจอดที่ปารากวัย ตอนนั้นเครื่องกำลังบินผ่านเขตอากาศแปรปรวน ทุกคนบนเครื่องตกใจ นักบินประกาศออกมาว่าให้ทุกคนเตรียมตัวในการลงแบบฉุกเฉิน
พาบลา โธเมน ผู้โดยสารบนเที่ยวบินนั้นให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุโมนูเมนทัล เอเอ็ม 1080 ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) ที่ผ่านมา
โธเมน ยังกล่าวเพิ่มว่า เธอเริ่มกรีดร้องและกอดลูกสาวไว้แน่นตลอดระยะทางที่เครื่องบินผ่านหลุมอากาศ เครื่องสั่นโยกจนเข็มขัดรัดที่นั่งของเธอหลุดออกจากกัน และเธอได้รับความช่วยเหลือจากคนที่นั่งข้างๆ ช่วยรัดเข็มขัดกลับให้ แรงสั่นไหวของเครื่องบินที่กำลังบินผ่านความแปรปรวนของสภาพอากาศตอนนั้น ทำให้เธอถึงกลับกล่าวคำบอกลาลูก เนื่องจากเธอคิดว่าเครื่องบินคงจะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นแน่ๆ
เส้นทางการบินหฤโหด
แถลงการณ์จากสายการบิน LATAM ยังได้บอกถึงเส้นทางการบินของเที่ยวบินนี้ด้วยว่า ออกเดินทางจากเมืองซานติอาโก ประเทศชิลี สู่ เมืองอะซุนซิออง เมืองหลวงของปารากวัย แต่ระหว่างทาง เที่ยวบินนี้เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก จึงต้องทำการลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินในประเทศบราซิล
หลังจากรออยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง นักบินก็ตัดสินใจนำเครื่องขึ้น และเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ตามรายงานบอกว่า นักบินไม่ได้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ และมีสติตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน
หลังจากนักบินสามารถนำเครื่องบินลงจอดได้อย่างสำเร็จ พบว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างหนักที่ กระจกหน้าห้องนักบินที่ถูกลูกเห็บชนจนกระจกร้าวหลายจุด และ บริเวณจมูกเครื่องบิน หรือ เรโดม (Radome) และ เรดาร์ตรวจอากาศ (Weather Radar) ภายในก็เสียหายอย่างหนักเช่นกัน
Vicente Quinonez อดีตเจ้าหน้าที่บริษัทแอร์บัส ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC ของปารากวัย ว่านักบินในเครื่องบินลำดังกล่าว ทำการบินลงแบบฉุกเฉินที่ ปารากวัย จากความสูง 28,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล โดยที่เครื่องยนต์ 1 ข้างใช้งานไม่ได้ และใช้เวลาทั้งหมด 7 นาทีจนถึงพื้นอย่างปลอดภัย
เรโดม – เรดาร์ตรวจจับอากาศ คืออะไร?
เรโดม (Radome) คือ ส่วนหน้าสุดของเครื่องบิน หรือเรียกกันง่ายๆว่า “จมูกเครื่องบิน” เป็นเพียงฝาทรงกรวยครอบสิ่งสำคัญในเครื่องบินที่อยู่ข้างในอีกที ชื่อ “เรดาร์ตรวจจับอากาศ (Weather Radar)”
เรดาร์ตรวจจับอากาศ มีไว้เพื่อส่งสัญญาณไปด้านหน้าของเครื่องบิน ในช่วงที่เครื่องบินบินอยู่บนฟ้า หากพบเมฆฝนที่อยู่ด้านหน้า ก็จะส่งสัญญาณกลับมา แสดงเป็นจอภาพให้นักบินรู้ และทำการบินหลบเมฆ เพื่อให้การบินราบรื่น
คำถามคือ ถ้าไม่มี เรโดม อันตรายหรือไม่ ? คำตอบคือ ไม่แต่ไม่ควร เปรียบเสมือนการขับรถแล้วไม่มีฝากระโปรงรถ ก็ยังสามารถขับต่อไปได้ แต่ก็ไม่ควรขับไปทั้งสภาพแบบนั้น
ที่มา : CNN, ABC TV
แท็กที่เกี่ยวข้อง: