วันนี้ (14 ต.ค.2565) นายชวลิต จันทร์รัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำจากทีมกรุ๊ป ให้ข้อมูลว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มวลอากาศเย็นจากจีน ทำให้ภาคเหนือและอีสาน มีอากาศเย็นลงซึ่งในวันที่ 15 ต.ค.นี้ จะมีดีเปรสชันลูกแรกขึ้นที่ดานัง ประเทศเวียดนาม จะทำให้มีฝนปานกลาง และตกเป็นหย่อม ๆ ในภาคอีสาน ชายทะเลฝั่งตะวันออก กทม.และปริมณฑล
ขณะที่ช่วงวันที่ 17-19 ต.ค.นี้ จะมีดีเปรสชันลูกที่ 2 แต่ประเมินว่าจะไม่เข้าสู่ประเทศไทย แต่จะทำให้ฝนหนักที่ไต้หวันต่อเนื่องหลายวัน ขณะที่ช่วง 13-15 ต.ค. ดีเปรสชั่นลูกที่ 3 จะอยู่ในทะเลตลอด ไม่ขึ้นฝั่งประเทศใด และ 17-22 ต.ค. มีพายุไซโคลนเคลื่อนตัวในอันดามัน อาจจะทำให้มีฝนปานกลาง และตกเป็นหย่อมๆ ในภาคใต้
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออก "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง" ฉบับที่ 4 ระบุว่า พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 527 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในระยะต่อไป คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 14-15 ต.ค.2565
หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 14-15 ต.ค.2565 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย