ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เผยโฉม "สเปรย์พ่นจมูก" ป้องกันติดเชื้อโควิด-19 วางขาย 1 ต.ค.นี้

สังคม
27 ก.ย. 65
13:11
9,721
Logo Thai PBS
เผยโฉม "สเปรย์พ่นจมูก" ป้องกันติดเชื้อโควิด-19 วางขาย 1 ต.ค.นี้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เครือข่ายรัฐและเอกชน เปิดตัว "สเปรย์พ่นจมูก" ดักจับ-ป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ใน 6 ชั่วโมง เริ่มวางขายวันที่ 1 ต.ค.นี้

วันนี้ (27 ก.ย.2565) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 351 คน เสียชีวิต 10 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,455,587 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) หายป่วยแล้ว 2,471,392 คน เสียชีวิตสะสม 11,038 คน 

นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นโรคที่ติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

จากสถานการณ์นี้ ทีมวิจัยของไทยจากภาครัฐ และเอกชน คือคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) องค์การเภสัชกรรม และบริษัทไฮไบโอไซ จำกัด ร่วมกันพัฒนานวัตกรรม

จนสามารถผลักดันงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิดผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นจมูก ที่มีคุณสมบัติดักจับและยับยั้งเชื้อโควิด-19 ทางกายภาพบริเวณโพรงจมูก ได้สำเร็จในที่สุด และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เตรียมวางขาย 1 ต.ค.นี้ 

โดยสเปร์ยพ่นจมูกนี้ มีหลักการทำงาน 2 กลไกได้แก่ 1.ดักจับด้วย HPMC ที่ทำหน้าที่เคลือบบริเวณพื้นผิวโพรงจมูกทำให้ความสามารถในการเกาะ ของเชื้อไวรัสที่บริเวณโพรงจมูกลดลง

ยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกายภาพที่เข้ามาในบริเวณโพรงจมูกด้วยภูมิคุ้มกัน ใช้พ่นที่โพรงจมูกทั้ง 2 ข้าง สอดหัวพ่นเข้าไปในโพรงจมูกในแนวตั้ง พ่นข้างละ 1-2 ครั้ง ใช้ได้ตามต้องการทุก 6 ชั่วโมง ได้ถึงวันละ 3 ครั้ง มีขนาด 15 มล. ซึ่งจะจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้

 

นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวว่า ในปัจจุบันว่านับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (“COVID-19”) ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ เมื่อเดือนธ.ค.2562 มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย แม้จะมีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้น แต่โควิด-19 ก็ยังคงเป็นโรคที่ติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

จากสถานการณ์นี้ ทีมวิจัยของไทยจากภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมกันดำเนินงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาวัคซีน, ชุดตรวจเชื้อ, เครื่องช่วยหายใจ, รวมถึงการพัฒนาแอนติบอดีที่มีคุณสมบัติดักจับและยับยั้งเชื้อโควิด-19 ทางกายภาพบริเวณโพรงจมูก

โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบในรูปแบบของสเปรย์สำหรับพ่นจมูก ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของประเทศไทย ที่จะปรากฏสู่สายตาชาวโลก เพื่อร่วมมือร่วมใจกัน ให้ประเทศไทยก้าวพ้นสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ครั้งนี้ไปได้ จนประสบผลสำเร็จ และสามารถยื่นจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย โดยถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ไปสู่ภาคเอกชน เพื่อนำไปต่อยอดในการทำการวิจัย สร้างเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ช่วยยับยั้งเชื้อโควิด-19 ได้ในที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง