วันนี้ (21 ก.ย.2565) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ แอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว (Long Acting Antibody : LAAB) ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดหา LAAB ยี่ห้อ Evusheld ให้กลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำและร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยวัคซีน เพื่อปกป้องกลุ่มเปราะบางก่อนการสัมผัสเชื้อ ขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 3,400 คน
LAAB สามารถออกฤทธิ์ลบล้างเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์กลายพันธุ์หลายตัว
กลุ่มเป้าหมายระยะแรก ได้แก่ ผู้ป่วยไตวายระยะเรื้อรังที่ต้องได้รับการฟอกไต ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ และผู้ป่วยปลูกถ่ายไขกระดูก โดยกำลังพิจารณาเพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่จำเป็นต้องได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วย LAAB เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัดและฉายแสง, ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะที่ต้องได้รับยากดภูมิขนาดสูง, ผู้ป่วยโรคข้อที่ต้องรักษาด้วยยากดภูมิ และผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำโรคอื่นๆ
ผลวิจัยพบลดอาการรุนแรง-เสียชีวิตได้ถึง 88%
สำหรับการนำมาใช้หลังรับเชื้อโควิด-19 นพ.โสภณ ระบุว่า ล่าสุดมีการศึกษาวิจัยโครงการ TACKLE Phase 3 ที่ตีพิมพ์ใน The Lancet Respiratory Medicine ออกมาแสดงผลการศึกษา LAAB ยี่ห้อ Evusheld ขนาด 600 มิลลิกรัม ฉีดในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก และมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต จำนวน 910 คน ในสถานพยาบาล 95 แห่งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น
พบว่า การให้ภายใน 7 วันหลังมีอาการ สามารถลดการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิตได้ร้อยละ 50 เมื่อเปรียบเทียบกับการให้ยาหลอก และหากให้ยาเร็วขึ้นอีกภายใน 5 วันและ 3 วันหลังมีอาการ จะลดการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิตได้ร้อยละ 67 และร้อยละ 88 ตามลำดับ
จากการศึกษาวิจัยแบบสุ่มที่มีการควบคุม (RCT) พบว่า การให้ Evusheld ขนาด 600 มิลลิกรัมในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีอาการมาไม่เกิน 12 วัน จำนวน 1,417 คน จากสถานพยาบาล 81 แห่งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป อูกันดา และสิงคโปร์ พบว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับยา Evusheld มีอัตราการเสียชีวิตลดลงร้อยละ 30 ซึ่งแสดงถึงผลดีของภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปยี่ห้อ Evusheld ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด
กระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการญี่ปุ่น อนุมัติให้ใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปยี่ห้อ Evusheld เพื่อการรักษาผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงจากการติดโควิด-19 ในวันที่ 30 ส.ค.2565
นอกจากนี้ วันที่ 20 ก.ย.2565 European Medicines Agency’s (EMA) ของยุโรป อนุมัติให้ Evusheld ใช้ในการรักษาผู้โควิด-19 ที่เริ่มมีอาการในระยะแรก ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรง
ส่วนประเทศไทย กำลังจะยื่นเอกสารขออนุญาตขึ้นทะเบียนภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Evusheld เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่งติดเชื้อในระยะแรก และมีความเสี่ยงสูงตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์