วันนี้ (6 เม.ย.2565) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง ตั้งเป้าจะทำกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อนที่จะเปิดสมัยประชุมสภา ในวันที่ 22 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ จะรวมประเด็นที่มีความสำคัญนำมาลงมติก่อนไม่ต้องรอเสร็จทั้งฉบับ เช่น ในขณะนี้กฎหมายพระราชบัญญัติพรรคการเมืองได้มีการลงมติเรื่องของค่าธรรมเนียม ค่าบำรุงพรรคไปแล้ว คาดว่า จะมีการลงมติในประเด็นผู้ก่อตั้งพรรค หรือ สมาชิกของพรรคในวันที่ 7 เม.ย.นี้ ส่วนกฎหมายลูกด้านการเลือกตั้งได้ลงมติในเรื่องประเด็นการกำหนดหมายเลขผู้สมัคร ในบัตร 2 ใบ ที่แตกต่างกันไปแล้ว
ส่วนการคำนวณสัดส่วนบัญชีรายชื่อที่ยังมีข้อเสนอที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของการคำนวณจะคิดสัดส่วนตามมาตรา 95 ว่า ควรจะมีสัดส่วน ส.ส.ที่พึงมีหรือไม่ โดยจะใช้สัดส่วน ส.ส.100 คน หรือ 400 คน หรือ 500 คน หรือจะต้องเป็นไปตามมาตรา 91 ที่เคยเสนอไป ให้กำหนดสัดส่วนบัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับบัญชีรายชื่อที่ได้กำหนดไว้ ดังนั้น จะต้องหารือกันพร้อมสอบถาม กกต.และคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ขัดกฎหมายเดิมที่อยู่หรือไม่
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า การพิจารณาพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ยังมีประเด็นที่ต้องถกเถียง คือ เรื่องการจัดทำไพรมารีโหวต ซึ่งร่างที่ตนเองเสนอไป คือ ใช้วิธีการให้มีตัวแทนจังหวัดในการที่จะสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากนั้นค่อยเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคแต่ในร่างเดิมของกฎหมายการเลือกตั้งให้ใช้วิธีการลงคะแนนโหวตจึงมีความคิดเห็นที่ต้องหารือกันและลงมติต่อไป
นายชินวรณ์ ย้ำว่า ในส่วนกฎหมายอื่น ๆ ก็ยังไม่เป็นประเด็นอะไรมากนัก หากการประชุมพระราชบัญญัติพรรคการเมืองที่คาดว่า แล้วเสร็จก่อนก็จะนำเวลามาใช้กับการพิจารณาพระราชบัญญัติพรรคการเมือง
ดังนั้น มั่นใจว่ากรรมาธิการฯ จะสามารถพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ ได้ทันก่อนเปิดสมัยประชุมสภาอย่างแน่นอน เพราะทุกพรรคอยากให้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว และเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกคน
ส่วนประเด็นการตัดลักษณะต้องห้ามให้ผู้ที่ถูกระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้จัดตั้งพรรค จะเปิดช่องให้ผู้ที่ตัดสิทธิทางการเมือง เช่น แกนนำเสื้อแดง กปปส. รวมถึงแกนนำพรรคอนาคตใหม่นั้น นายชินวรณ์ มองว่า ในร่างกฎหมายจะมายึดเอากรณีหรือกลุ่มคนบางกลุ่มเป็นประเด็นหลักไม่ได้ ต้องยึดหลักกฎหมายให้เข้มแข็ง ซึ่งนักการเมืองจะต้องไม่ถูกชักนำหรือชี้นำ ด้วยบุคคลภายนอก พร้อมระบุว่า ภายหลังลงมติบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เบอร์แตกต่างกันแล้วในที่ประชุมใหญ่สภาจะกลับมาใช้บัตร 2 ใบเบอร์เดียวกันเป็นไปได้ยากเพราะได้มีการลงมติไปแล้ว