ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ร้องแร็ป-Squid Game" สนามหาเสียงออนไลน์ผู้ว่าฯ กทม.คึกคัก

การเมือง
2 เม.ย. 65
13:40
299
Logo Thai PBS
"ร้องแร็ป-Squid Game" สนามหาเสียงออนไลน์ผู้ว่าฯ กทม.คึกคัก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สนามหาเสียงออนไลน์ผู้ว่าฯ กทม.คึกคัก "ชัชชาติ" หยิบไวรัลซีรีส์ "Squid Game" ฉายปัญหาที่คนกรุงต้องเผชิญ ขณะที่ "สกลธี" แร็ปเสนอนโยบายหวังเข้าถึงวัยรุ่น แต่นักวิชาการมองว่า การหาเสียงให้สำเร็จ คือ การรู้ Pain point ของคนรุ่นใหม่เพื่อสื่อสารให้ตรงประเด็น

ห่างหายจากการหาเสียงเลือกตั้งมานาน กลับมาครั้งนี้ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่ละคน มาพร้อมกับกลยุทธ์หาเสียงบนโลกออนไลน์ เพื่อการเข้าถึงประชากรชาวกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก (First Time Voter)

"ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผู้สมัครหมายเลข 8 หยิบไวรัลบนออนไลน์อย่างซีรีส์เกาหลียอดฮิต "Squid Game" มาตีโจทย์ใหม่ ในธีมกรุงเทพฯ เมืองที่น่าเที่ยวอันดับ 1 ของโลก แต่เป็นเมืองที่น่าอยู่อันดับที่ 98 ของโลก สะท้อนปัญหาขนส่งสาธารณะ ปัญหาทางเท้า และมลพิษทางอากาศ เพื่อนำเสนอนโยบายทางออนไลน์

 
ไม่ต่างจาก "สกลธี ภัททิยกุล" ผู้สมัครหมายเลข 3 ที่เอาใจวัยรุ่นด้วยการอวดลวดลายการแร็ปเสนอนโยบายและความพร้อมแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครทั้งน้ำท่วม รถติด โดยขอความร่วมมือประชาชนและขออาสาเป็นผู้พัฒนาพื้นที่ให้ดีขึ้น สมกับชื่อเพลง "กรุงเทพดีกว่านี้ได้"

 

แม้จะทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ด้วยกลยุทธ์ที่ทันสมัย แต่อาจไม่ใช่คำตอบว่า จะสามารถซื้อใจเหล่าคนรุ่นใหม่ได้ รศ.พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล ภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า การหาเสียงกับคนรุ่นใหม่สิ่งสำคัญไม่ใช่การทำตัวเป็นเด็ก แต่ผู้สมัครต้องตีโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ให้แตก

ผู้สมัครไม่ต้องทำตัววัยรุ่น แต่ต้องเข้าใจ Pain point คนรุ่นใหม่ คือ ความยุติธรรม ผลประโยชน์สาธารณะ ภาษีที่เขาจ่ายไปคุ้มค่าไหม การขนส่งสาธารณะหรือทางเท้า เมื่อเข้าใจแล้วเอาข้อความที่ตรงกับเขามา จะทำให้เขาหยุดดู และประสบความสำเร็จในการสื่อสาร


แคมเปญการเมืองสร้างคอมมูนิตี้บนโลกออนไลน์

นอกจากกิมมิกจากไวรัลต่าง ๆ แล้ว ผู้สมัครบางคนเริ่มสร้างแคมเปญทางการเมืองผ่านพื้นที่ออนไลน์ อย่าง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 ชูแฮชแท็ก #วิโรจน์ #พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพ ที่ชวนชาวกรุงร้องเรียนปัญหาทางม้าลายผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ก่อนจะนำมาจัดทำเป็นแผนที่รายงานปัญหาบนเว็บไซต์ของพรรคก้าวไกล แล้วต่อเนื่องด้วยการไลฟ์ 4 นโยบาย แก้ปัญหาทางม้าลายผ่านเฟซบุ๊ก


หรือแคมเปญพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครหมายเลข 6 ที่มาพร้อมแฮชแท็ก #อัศวิน #กรุงเทพฯต้องไปต่อ หลังเกิดดรามาป้ายหาเสียงขวางทางเดิน ก็ผุด Line Openchat ขึ้นมาให้ประชาชนสามารถร้องเรียนเรื่องป้ายหาเสียงได้ และมีทีมงานรับเรื่องเพื่อแก้ไขทันที จนนำไปสู่การสร้างคอมมูนิตี้ในโลกออนไลน์ที่ประชาชนร้องเรียนเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากป้ายหาเสียงกับทีมงานของผู้สมัครได้โดยตรง

 

ด้วยแฮชแท็กผู้สมัครที่มีกันทุกคน ประกอบกับการเดินหน้าหาเสียงทางออนไลน์ด้วยแคมเปญทางการเมืองและกลยุทธ์ต่าง ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่า การหาเสียงในสังเวียนโลกเสมือนที่ดุเดือดกลายเป็นช่องทางหลักของการซื้อใจชาวกรุง ไม่ใช่เพียงการสร้างสีสันเท่านั้น

เฟซบุ๊กมอนิเตอร์เฟกนิวส์-ต้นตอเงินโฆษณาหาเสียง

ขณะเดียวกันบทเรียนจากการหาเสียงในต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกาที่แพลตฟอร์มออนไลน์ถูกตีตราให้กลายเป็นผู้ต้องหาการแพร่เฟกนิวส์จนทำให้เกิดข้อกังขาบิดเบือนผลการเลือกตั้ง ก็นำไปสู่การมอนิเตอร์สุดเข้มข้นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งโดยเฉพาะจากแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก

เฟซบุ๊กจะมอนิเตอร์เงินที่ลงโฆษณาเพื่อหาต้นตอเงินว่ามีความผิดปกติหรือไม่ หากผิดปกติจะดำเนินตามขั้นตอน ด้านเนื้อหาเฟซบุ๊กจะให้พื้นที่กับนักการเมืองเป็นพิเศษ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเสรีภาพในการสื่อสาร แต่จะเข้ามาจัดการทันทีที่มีการปล่อยเฟกนิวส์


หลังจากนี้ การหาเสียงทางออนไลน์จะกลายเป็นโจทย์สำคัญและเป็นพื้นที่แข่งขันสูงที่แต่ละคนต้องงัดกลยุทธ์ที่ถูกต้อง มาพร้อมกับการสื่อสารที่ไม่ผิดเงื่อนไขของแพลตฟอร์ม ขณะที่ รศ.พิจิตรา ฝากถึงประชาชนที่ติดตามนโยบายของผู้สมัครแต่ละคนอาจต้องเน้นรับสารจาก 2 ช่องทาง คือ เพจหลักของผู้สมัครเอง และช่องทางสื่อออนไลน์ของสำนักข่าว เพื่อให้ได้ข้อมูลจริงและถูกต้อง นำไปสู่การตัดสินใจเลือกผู้แทนเพื่อตัดสินอนาคตคนกรุงในอีก 4 ปีข้างหน้า

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กนโยบาย! ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.กับเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียว

“ชัชชาติ” ระบุ กทม.ไม่ใช่แค่ลอกท่อ-เก็บขยะ แต่ต้องทำให้ชีวิตคนดีขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง