วันนี้ (22 พ.ย.2564) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ COVID-19 ขณะนี้มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อคงที่ ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักลดลง ผู้เสียชีวิตยังอยู่ในหลักสิบราย โดยจังหวัดที่มีแนวโน้มต้องจับตามองเป็นพิเศษมี 13 จังหวัด แบ่งเป็น 1.ติดเชื้อเฉลี่ยเกิน 100 คนต่อวัน และผลตรวจ ATK มากกว่า 5% มี 5 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช
ส่วนกลุ่มที่ 2.ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยเกิน 100 คนต่อวัน และผลตรวจ ATK พบน้อยกว่า 5% มี 3 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น สระแก้ว และนครราชสีมา และ 3.ติดเชื้อเฉลี่ย 50-100 คนต่อวันมี 5 จังหวัดได้แก่ สระบุรี อุบลราชธานี อุดรธานี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์
จับตาหลังลอยกระทงถึงสิ้นธ.ค.
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า ปัจจัยการติดเชื้อในช่วงนี้ส่วนใหญ่มาจากในชุมชน ครอบครัว กิจกรรมเสี่ยง ได้แก่ งานศพ งานบุญ งานเลี้ยงสังสรรค์ และสถานที่เสี่ยง ได้แก่ ตลาด แคมป์คนงาน โรงงาน เรือนจำ โรงเรียน ซึ่งหลายจังหวัดพบเป็นคลัสเตอร์ ในสถานที่มีแรงงานต่างด้าว ดังนั้นจึงต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว
นอกจากนี้จับตาดูแนวโน้มผู้ติดเชื้อหลังงานลอยกระทงจนถึงเดือนธ.ค.นี้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะจากยุโรปพบการติดเชื้อสูงขึ้น
ปลัดสธ. กล่าวว่า สำหรับการเตรียมการเปิดประเทศให้ทุกจังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติการ เน้นกำกับติด ตามมาตรการ VUCA นำประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 โดยจัดบริการทั้งในและนอกสถานพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จัดลงทะเบียน แรงงานต่างด้าว ในชุมชน รวมถึงให้ อสม.ช่วยค้นหาเชิงรุก ป้องกันตัวเองตลอดเวลา ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนครบ และตรวจ ATK เฝ้าระวังและตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงเฝ้าระวังชุมชนหนาแน่น และมีแรงงานต่างด้าว
ให้ทุกพื้นที่ช่วยสำรวจรวบรวมประเด็น เหตุผลที่คนไม่ยอมฉีดวัคซีน เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์ อบรมทีมเชิงรุกในการให้ข้อมูลจูงใจให้เข้ารับวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีน 27 พ.ย.- 5 ธ.ค.นี้ เพื่อเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายไปถึงกลุ่มแรงงานข้ามชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วัคซีนหมด รพ.ศรีธัญญา แจ้งฉีดบูสเตอร์โดส "ไฟเซอร์" สัปดาห์หน้า