วันนี้ (14 ต.ค.2564) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือไทม์ไลน์เปิดประเทศ พ.ย.-ธ.ค.นี้ โดยประเทศความเสี่ยงต่ำของ COVID-19 คือ มติครั้งแรกของการจัดกลุ่มในการปรับใช้ เป็นเรื่องเดิมให้คณะกรรมการวิชาการ ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ ได้คุยกันมาพอสมควรว่าเรื่องนี้ต้องยกเลิกไป เพราะในต่างประเทศมีการจัดการทำสิ่งต่างๆ จึงให้ทำการจัดการ และเกณฑ์ต่างๆ ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องมีมาตรการส่วนบุคคล เช่น การฉีดวัคซีนครบโดส มาจากประเทศเสี่ยงต่ำ มีผลตรวจเชื้อด้วย RT-PCR และตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงไทย เป็นปัจจัยที่สำคัญมากกว่า
การกำหนดประเทศต่างๆที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้ขอยกเลิกไป ทั้งนี้เดิมมีการกำหนดประเทศความเสี่ยงต่ำที่จะเข้ามาแล้วไม่ต้องกักตัว เช่น อังกฤษ สหรัฐฯ เยอรมนี สิงคโปร์ จีน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า มีพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวพื้นที่สีฟ้าท่องเที่ยว จากเดิมภูเก็ต เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เช่นมาอยู่ที่ภูเก็ต 7 วันแล้วไปที่เกาะต่างๆในพังงา กระบี่ อีก 7 วัน ซึ่งจากการศึกษาพบว่าคนที่มาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 7+7 ได้มีการจัดการดี จึงต้องมีการขยายพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม
เปิดจังหวัดสีฟ้าท่องเที่ยว-รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.
ทั้งนี้ ตามแผนช่วงวันที่ 1-31 ต.ค.นี้ มี 4 จังหวัดสีฟ้าแล้ว คือภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ส่วนระยะต่อมาวันที่ 1-30 พ.ย.นี้ จะเพิ่มอีกรวมเป็น 17 จังหวัด เช่น กทม. สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ) ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ พังงา เพชรบุรี (อ.ชะอำ) จากนั้นในเดือน ธ.ค.จะปรับพื้นที่สีฟ้า เพิ่มอีก 16 จังหวัดเป็น 33 จังหวัด เช่น เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ เกณฑ์ที่เปิดเป็นนำร่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ และเป็นเมืองหลักมีสัดส่วนรายได้
แผนรองรับนักท่องเที่ยวไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ แนวคิดนี้เป็นของนายกรัฐมนตรี ประธานศบค.ชุดใหญ่ ขณะนี้ปรับเป็นแผนกลุยทธ์ต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เช่น ต้องมีการปรับเรื่องการเข้าไทย เช่น ลดวันกักตัว ปรับตรวจการตรวจหาเชื้อ ลดค่าประกัน
โฆษกศบค.กล่าวว่า ที่ประชุมพูดกันในวงกว้าง เพื่อรองรับในกรณีต่างๆ เช่น ถ้าป่วยแล้วรักษาอย่างไร รวมทั้งป้องกันการลักลอบหนีเข้าประเทศ การจัดระบบแรงงานข้ามชาติที่กลับมาทำงาน เพื่อให้เป็นไปตามแผนทั้งเรื่องเฝ้าระวัง กลุ่มเปราะบาง ความพร้อมด้านสาธารณสุข การบริหารแบบบูรณาการ ทั้งหมดเสนอในที่ประชุม และจัดทำแผนในช่วง 2 เดือนที่เหลือจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอที่ประชุมศบค.อนุมัติ และให้ถ่ายทอดไปให้ทุกหน่วยงานรับทราบ
ในช่วงวันที่ 1-30 พ.ย.นี้ ถือเป็นระยะที่ 1 ดำเนินงานตามแผน ระยะที่ 2 ประเมินผล และระยะที่ 3 วันที่ 1 ม.ค.65 ดำเนินการตามแผนต่อเนื่อง วันนี้ในที่ประชุม ยังไม่ได้บอกถึงจำนวนประเทศเพิ่มเติม ที่จะเดินทางเข้ามาแล้วไม่ต้องกักตัว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยติดโควิดเพิ่ม 11,276 คน หายป่วย 10,407 คน