หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ระบุจะเดินหน้าเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส เดินทางเข้าไทยทางอากาศ จากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีผลตรวจโควิดด้วยวิธี RT-PCR มาจากประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อมาถึงไทย ซึ่งมีประเทศที่เสี่ยงต่ำอย่างน้อย 10 ประเทศ เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจากเว็บไซต์ worldometers.info รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. สำหรับประเทศที่นายกรัฐมนตรียกตัวอย่างว่า "มีความเสี่ยงต่ำ" ดังนี้
"อังกฤษ" ติดเชื้อรายใหม่ 40,224 คน (ข้อมูล 12 ต.ค.64)
ผู้นำอังกฤษประกาศคลายล็อกดาวน์ และมีแผนการอยู่ร่วมกับโควิด-19 โดยได้ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัย ผ่อนคลายการรักษาระยะห่าง อนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเปิดได้ตามปกติ อีกทั้งยังให้ประชาชนกลับไปทำงานในที่ทำงานได้ ในขณะที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ในช่วงฤดูหนาว รัฐบาลอังกฤษมีแนวทางในการควบคุมการระบาดด้วยการใช้วัคซีนเป็นหลัก
ขณะเดียวกัน วันที่ 11 ต.ค. สหราชอาณาจักรถอด "ประเทศไทย" ออกจากประเทศกลุ่มสีแดง (Red List) หรือประเทศที่มีความเสี่ยงสูงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดส ตามที่สหราชอาณาจักรรับรอง จะสามารถเดินทางเข้าอังกฤษได้โดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน
"สิงคโปร์" ติดเชื้อรายใหม่ 2,263 คน (ข้อมูล 12 ต.ค.64)
รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศแนวทางอยู่ร่วมกับโควิด-19 ในระยะยาว ผ่อนคลายมาตรการ เดินหน้าเปิดประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเปิดรับผู้เดินทางจากแคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ที่ได้รับวัคซีนครบโดส เข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว แต่จะใช้การตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งแทน ตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังประกาศจับคู่ท่องเที่ยวกับเกาหลีใต้ หลังจากทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวจากเยอรมนีและบรูไน เมื่อช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่ร้อยละ 83 ของประชากรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส ทำให้สิงคโปร์มีอัตราฉีดวัคซีนสูงเป็นอันดับต้นๆ "ลี เซียน ลุง" ผู้นำสิงคโปร์ ระบุว่า การเข้าสู่ภาวะปกติแบบใหม่อาจต้องใช้เวลาตั้งแต่ 3 เดือนหรือนานถึง 6 เดือน
"เยอรมนี" ติดเชื้อรายใหม่ 4,872 คน (ข้อมูล 12 ต.ค.64)
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สถาบันโรแบร์ตค็อก (RKI) ของเยอรมนี เปิดเผยข้อมูลว่าปัจจุบันประชาชนในเยอรมนีเกือบ 54.27 ล้านคน ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว ทำให้อัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 65.3
ล่าสุด รัฐบาลเยอรมนียุติบริการตรวจโควิด-19 แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีวัคซีนฟรีพร้อมฉีดให้ประชาชนในประเทศ
"จีน" ติดเชื้อรายใหม่ 12 คน (ข้อมูล 12 ต.ค.64)
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีนนั้นคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว จากการใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง จนมีอัตราการติดเชื้อใหม่ลดต่ำลง
ขณะที่มีข้อมูลจากทางการจีนว่า มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรทั้งประเทศ แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลจีนยังคงมาตรการจำกัดการเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางข้ามแดน
"สหรัฐอเมริกา" ติดเชื้อรายใหม่ 50,466 คน (ข้อมูล 12 ต.ค.64)
แม้สหรัฐฯ จะยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่ก็ยังมีชาวอเมริกันอีกมากที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (CDC) หรือวัคซีนที่อยู่ในรายชื่อวัคซีนที่ได้รับอนุมัติใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินโดยองค์การอนามัยโลกเทานั้น จึงจะถือว่าเข้าเกณฑ์ที่มีการกำหนดสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ประกาศเปิดท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้ 10 ประเทศเข้าไทยไม่ต้องกักตัว
ข่าวดี! อังกฤษถอดไทยพ้นประเทศกลุ่มสีแดงโควิด มีผล 11 ต.ค.นี้