วันนี้ (7 ต.ค.2564) ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ห้ามกระทำหรือแสดงพฤติการณ์ 4 ข้อ ระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจการบริหารจัดการน้ำ แผนป้องกันอุทกภัย และตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชนตําบลมะม่วงสองต้น
สำหรับการกระทำหรือพฤติการณ์ที่แจ้งเตือนไว้ มีดังนี้
1.ปาไข่ หรือไข่เน่า ความผิด ป.อาญา มาตรา 391 หรือ ทำร้ายร่างกาย ลหุโทษ
2.ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ความผิด ป.อาญา 393 หรือ ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา หรืออาจมีความผิด มาตรา 326 ข้อหาหมิ่นประมาท
3.เผารูปนายกฯ หรือพระบรมฉายาลักษณ์ ถ้านำมาเอง ไม่ผิดทำให้เสียทรัพย์ หรือ ไม่ผิด มาตรา 112 ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ถ้าการเผานั้น อาจทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย หรืออาจทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย อาจมีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 220 วรรคแรก ถ้าเผาภาพของผู้อื่น เป็นความผิดทำให้เสียทรัพย์ หรือวางเพลิงได้
4.นำภาพนายกฯ ไปลงเฟซบุ๊กหรือไลน์ หรือในสื่อโซเชียล อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ข้อมูลเท็จ ปลอม บิดเบือน โดยประการที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย มาตรา 14 (2) ข้อมูลเท็จเสียหายต่อความมั่นคง ปลอดภัยสาธารณะ เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน มาตรา 14 (5) เผยแพร่ ส่งต่อตาม (1)(2)(3)(4) หรือหากมีพฤติกรรมที่เป็นการต่อต้านหรือขัดขวางจะพิจารณาความผิดแล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมน้ำเจ้าพระยา จ.นนทบุรี ซึ่งมีทั้งผู้ที่ให้การต้อนรับ และกลุ่มคัดค้าน-ขับไล่ โดยเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นหลังกลุ่มดังกล่าวทราบว่า ขบวนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังเคลื่อนออกจากท่าน้ำนนท์ จึงกระโดนถีบ ขว้างปาขวดน้ำ ถุงปลาร้า
ขณะที่ทีมรักษาความปลอดภัย ประเมินสถานการณ์และประสานตำรวจชุดควบคุมฝูงชน เข้ามาร่วมควบคุมสถานการณ์ จึงกลายเป็นเหตุไม่พอใจ พร้อมกับการตัดสินใจเปลี่ยนจุดที่นายกรัฐมนตรีจะขึ้นเรือ จากท่าน้ำนนท์ไปยังท่าน้ำเกียกกาย เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชุลมุน! นายกฯ เปลี่ยนจุดขึ้นฝั่ง เจอผู้ชุมนุมดักรอท่าน้ำนนท์