วันนี้ (1 ต.ค.2564) พล.อ.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก ระบุถึงการเตรียมพร้อมสนับสนุนรัฐบาลรับมือสถานการณ์ COVID-19 ตามแผนเปิดประเทศว่า ที่ผ่านมากองทัพบก สนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่โดยเฉพาะการดูแลสกัดกั้นตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่
หลังจากนี้ในช่วงเตรียมเปิดประเทศก็จะเน้นการปฏิบัติภารกิจให้ครอบคลุม ทั้งการวางกำลังซีลชายแดนทุกพื้นที่อย่างเข้มงวด การจัดกำลังดูแลพื้นที่ชั้นในจำนวน 3,000 นาย หมุนเวียนปฏิบัติงานสนับสนุนการตั้งด่านตรวจด่านสกัดต่างๆ ตรวจสอบทั้งรถ และคน เช่น ตรวจสอบว่ามีการฉีดวัคซีนหรือไม่ เป็นการช่วยรัฐบาลในทุกเรื่อง
นอกจากนี้ยังสนับสนุนเรื่องการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงโดยสนับสนุนสถานที่โรงพยาบาลของกองทัพ และการจัดกำลังพลสายแพทย์แถวสองช่วยฉีดวัคซีน และทุ่มเททรัพยากรทุกอย่างสนับสนุนรัฐบาล โดยเฉพาะในจุดที่จะมีการเปิดพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว
โฆษกกองทัพบก ยังย้ำถึงถึงการดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมาที่มีการสู้รบและการเคลื่อนไหวของขบวนการค้าอาวุธสงครามว่า กองทัพบกโดย 7 กองกำลังชายแดน มีวิธีปฏิบัติในการดูแลเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ดูแลเฝ้าระวังแนวชายแดนอย่างเต็มที่ ไม่ยอมให้มีการลักลอบหรือนำสิ่งผิดกฎหมายข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยเด็ดขาด
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบตลอดแนวชายแดนในปี 2565 กองทัพบกจัดอัตรากำลังพลในกองกำลังป้องกันชายแดนจำนวน 24,305 อัตรา ปฏิบัติภารกิจใน 7 กองกำลังรอบประเทศ ปฏิบัติหน้าที่สำคัญหลายด้าน ทั้งการลาดตระเวนระยะทาง 5,656 กม. ตลอดแนวชายแดนไทย ใน 31 จังหวัด ,ปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นยาเสพติด, การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการจัดกำลังเฝ้าระวังป้องกันตลอดแนวชายแดน