วันนี้ (1 ต.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การค้นหาผู้สูญหาย 2 คน และการกู้เรือลากจูงที่ล่ม ยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำที่เชี่ยวแรง ใต้น้ำมีน้ำวน และไม่มีความสว่าง แม้จะค้นหาเรือยนต์ลากจูงที่จมน้ำได้แล้วก็ตาม
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถผูกเชือกที่เรือได้ 2 เส้น ใช้เรือ 2 ลำในการดึง แต่ไม่สามารถให้เรือที่จมเคลื่อนที่ได้ จึงใช้เรือเพิ่มอีก 2 ลำมาช่วยแรงดึง ทำให้เรือเคลื่อนที่ไปได้ประมาณ 20-30 เมตร แต่เชือกขาด 1 เส้นไม่สามารถดึงเรือต่อได้ และนักดำน้ำกู้ภัยก็สภาพร่างกายไม่ไหว จึงยุติไว้ก่อนประมาณ 20.00 น.
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านความปลอดภัย กล่าวว่า กระแสนน้ำไหลเชี่ยวมาก ยังไม่สามรถกู้เรือขึ้นมาได้ เนื่องจากเรือมีน้ำหนักประมาณ 67 ตัน เบื้องต้น นักประดาน้ำจะดำน้ำลงไปเพื่อผูกทุนกับเรือที่จมน้ำเอาไว้ก่อน จากนั้นจะทำการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ขณะที่ในช่วงค่ำ มีรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตลอยน้ำใน ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากที่เกิดเหตุกว่า 20 กิโลเมตร หน่วยกู้ภัยอยุธยาจึงนำกำลังออกค้นหน้าแต่ยังไม่พบ จึงยกเลิกการค้นหา เนื่องจากเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาในจุดดังกล่าวมีพื้นที่กว้างประมาณ 600-700 เมตร และน้ำไหลแรงหมุนวนไปมา
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะกระแสน้ำแรงกว่าวันแรกที่เกิดเหตุ (29 ก.ย.2564) เนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กำลังเร่งระบายน้ำเพิ่มขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศปิดเส้นทางเดินเรือไว้ชั่วคราวเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน