วันนี้ (2 ก.ย.2564) แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม "ไทยไม่ทัน"และกลุ่มเครือข่ายประกอบด้วยนายเมธา มาสขาว นายจำนงค์ หนูพันธ์ น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ นายนันพงศ์ ปานมาศ และพวกรวม 8 คน พร้อมทนายความ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกที่ สน.นางเลิ้ง ภายหลังถูกดำเนินคดี ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค กรณีร่วมกิจกรรมชุมนุม ช่วงเดือนมิ.ย. และ ก.ค.ที่ผ่านมา
นายเมธา หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทั้ง 8 คน ที่ถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา ขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า การเคลื่อนไหวชุมนุม หรือขึ้นพูดบนเวที เป็นการแสดงออกทางการเมือง เป็นสิทธิที่แสดงออกได้ตามรัฐธรรมนูญ การถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค คล้ายถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง เนื่องจากทุกครั้งที่จัดกิจกรรมได้มีมาตรการป้องกันโรคตามสาธารณสุขกำหนด โดยให้นำภาพถ่ายขณะจัดกิจกกรรมมาเป็นหลักฐานประกอบทางคดี
ขณะที่นายสมชาย หอมลออ ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งข้อสังเกตว่า การถูกแจ้งข้อหาของผู้ถูกกล่าวหานั้น ไม่ตรงกับเจตนาข้อกฎหมายที่ถูกดำเนินคดี เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เป็นการแก้ปัญหา COVID-19 ซึ่งเป็นการลิดรอนสิทธิในการวิจารณ์ทางการเมืองหรือไม่ ที่ผ่านมาไม่พบว่ามีผู้ชุมนุมติดเชื้อ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกอออกหมายเรียก มีทั้งหมด 32 คน ก่อนหน้านี้บางคนได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว
นอกจากนี้ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ผู้ถูกกล่าวหา โดยเปิดเผยว่า หากแกนนำที่ออกมาจัดกิจกรรมถูกดำเนินคดี ตัวเองก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน มวลชนที่จัดกิจกรรมมีประสิทธิภาพป้องกัน COVID-19 ได้ดีกว่ารัฐบาลเสียอีก และมวลชนไม่เคยพบเป็นคลัสเตอร์แพร่ระบาด ขณะที่รัฐมนตรีบางคน รวมตัวจัดกิจกรรมกลับพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
ทั้งนี้ ยังมีมวลชนกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า ทะลุฟ้า และเครือข่าย เดินทางมารับทราบข้อหา คดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ. ควบคุมโรค และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วยเช่นกัน