ตอนแรกเขาบอกว่าไม่ได้ทำ จนมีหลักฐานว่า เรานำยาไปมอบให้แล้ว ก็เลยอ้อมแอ้ม ราคาซื้อขาย 50 เม็ด น่าจะเกิน 20,000 ไปแล้วมั้งครับ
เป็นเพียงหลักฐานเดียวที่หมอจากโรงพยาบาลรามาธิบดี ยอมบอกกับไทยพีบีเอสออนไลน์ หลังกระแสข่าวพบพฤติกรรมกลุ่มผู้ป่วย COVID-19 ที่เข้าระบบบรักษาตัวที่บ้าน Home isolation บางคน ที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ไปแล้ว แต่กลับบอกว่า "ยังไม่ได้รับ" เพื่อจะให้ทีมแพทย์ส่งยาไปให้อีกครั้ง
จุดประสงค์เพื่อนำยาไปขายต่อ เพราะตอนนี้ราคายาฟาวิพิราเวียร์ ในตลาดมืดมีราคาสูงมาก เพราะคนกลัวว่า หากการระบาดยังมากขนาดนี้ ยาอาจจะมีไม่พอ จึงมีความต้องการยาฟาวิพิรา เวียร์มาก และแน่นอนว่า การนำไปขายแบบนี้ จะมีคนซื้อทันที
อ่านข่าวเพิ่ม หมอรามาฯ โพสต์ข้อความ เจอกับตัว คนเวียนขอรับ "ยาฟาวิพิราเวียร์" ขายตลาดมืด
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1PKE0JrH1hs6ciLLiwnIWnlu4z.jpg)
ทันทีที่มีการโพสต์ข้อความในโซเชียล เปิดเผยข้อมูลในลักษณะนี้ออกมา ชาวเน็ตบางคนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า
เห็นในกลุ่มมีลงขาย ราคา 4,500 บาท ไม่แน่ใจของไทย หรือเปล่า
ขณะที่ชาวเน็ตบางคนได้มองถึงทางออก เช่น เสนอให้ลงทะเบียนรับยาด้วยบัตรประชาชนจะได้รู้ว่ารับไปแล้วกี่ชุด และจ่ายยาให้ผู้ป่วยเมื่อไหร่ รวมทั้งให้ใช้ระบบไอที เชื่อมกับบัตรประชาชน จะได้ไม่มีการจ่ายยาซ้ำซ้อน ตรวจสอบจากที่ไหนก็รู้หมดว่า รับยาไปแล้ว โกงไม่ได้
เช็กช่องทางออนไลน์กล่องละ 8,589-8,989 บาท
ไทยพีบีเอสออนไลน์ ทดสอบสุ่มตรวจผ่านทางร้านค้าออนไลน์ชื่อดัง โดยค้นหาคำว่า “ยาฟาร์วิพิราเวียร์” ข้อมูลจากร้านค้าดังกล่าว ปรากฎขึ้นให้เลือกมากมาย
บางร้านใช้คำเชิญชวนว่า “ฟาร์วิพิราเวียร์ ความหวังในการรักษา COVID-19 พบราคากล่องละ ตั้งแต่ 8,589-8,989 บาท รายละเอียดพบ 1 กล่อง มี 4 แผงๆ ละ 10 เม็ด
เมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบว่า มีการอ้างอิงแหล่งที่มาขายจากพื้นที่ กทม. และนนทบุรี พร้อมทั้งให้ข้อมูลสรรพคุณยาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นวิธีการกิน ผลข้างเคียงของยา แต่เมื่อดูประวัติร้านค้า และการรีวิวสินค้ากลับยังไม่พบข้อมูลเพิ่ม ยังไม่สามารถสรุปว่า มีใครซื้อยาผ่านช่องทางนี้แล้วหรือไม่
ข้อมูลจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) รายงานว่า ประเทศไทยต้องการใช้ยาฟาร์วิพิราเวียร์ เฉลี่ยวันละ 1 ล้านเม็ด หรือเฉลี่ยเดือนละ 30 ล้านเม็ด แนวโน้มเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงเดือนสค.-ก.ย.นี้ คาดต้องจัดหาให้ได้ 120 ล้านเม็ด
อ่านข่าวเพิ่ม สธ.จัดหา "ยาฟาวิพิราเวียร์" เพิ่ม 16 ล้านเม็ด ภายใน ก.ค.นี้
ก่อนหน้านี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยออกมาเตือนว่า อย่าหลงเชื่อซื้อยาฟาร์วิพิราเวียร์ ที่ขายผ่านโซเชียลและช่องทางต่างๆ เนื่องจากเป็นยาต้านไวรัส COVID-19 ผ่านช่องทางต่างๆ โดยไปซื้อมากินเอง เพราะปัจจุบันยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาที่ใช้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น ไม่มีการวางขายตามร้านขายยา หรือท้องตลาดทั่วไป
เพราะจะต้องอยู่ภายใต้การวินิจฉัยและคำสั่งของแพทย์ ที่จะต้องพิจารณาจากระดับอาการ น้ำหนักตัว หรือโรคประจำตัวของผู้ป่วย เพื่อป้องกันกรณีการใช้ยาเกินจำเป็น และเกิดปัญหาไวรัสดื้อยาในผู้ป่วย พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบหากลุ่มผู้กระทำความผิด
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1PKE0JrH1hs6ccn1CGMfSNSEjv.jpg)
ร้านขายยา ตวจ.ความหวังหายาต้านโควิด
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ภาคอีสาน ทราบว่า แต่ละวันจะมีคนเดินมาสอบถามหายาฟาร์วิพิราเวียร์ และติดต่อทางโทรศัพท์ของทางร้านวันละ 7-10 คน
ลูกค้าที่ติดต่อหาซื้อยา บางคนบอกว่าเป็นญาติกับผู้ป่วยที่กลับจากพื้นที่สีแดงและกทม. ต้องกักตัวที่บ้าน บางคนบอกว่ากลัวไปซื้อทางเน็ตจะไม่ได้ยาฟาร์วิพิราเวียร์ ต้องสูญเงินเปล่า และคิดว่าถ้าซื้อจากร้านขายยาจะถูกกว่า และได้ของแน่นอน
เจ้าของร้านขายยารายนี้ บอกว่า ได้แต่แจ้งกับลูกค้าไปว่า ยาชนิดนี้ไม่ได้ขายในร้านขายยาทั่วไป แต่ต้องสั่งจากแพทย์จากสถานพยาบาลให้ผู้ป่วยเท่านั้น ซึ่งบางคนก็เข้าใจ แต่บางคนก็ต่อว่า หาว่าจะเอาไว้ขายคนที่มีกำลังซื้อสูง หรือต้องการขายในราคาที่แพง
เป็นที่น่าสังเกตว่า คนที่ต้องการซื้อยาฟาร์วิพิราเวียร์จำนวนมาก ๆ อ้างจะไปญาติที่ป่วย แต่ส่วนตัวมองว่า บางคนมีความต้องการตุนยาไว้เอง เพราะกลัวว่าหากป่วยแล้ว จะไม่มียาต้านไวรัสตัวนี้หรือไม่ จึงอยากสำรองยาไว้ใกล้ตัว
นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า ตอนนี้ไม่เพียงแค่สินค้าหลายชนิด ที่เคยขาดแคลนในช่วง COVID-19 ระบาดระลอกแรก เช่น กลุ่มหน้ากากอนามัย เจล แอลกอฮอล์ ถุงมือยาง ตอนนี้ร้านขายยาประสบปัญหาว่า ผู้ผลิตไม่มีสต็อก ให้กับร้านขายยาปลีก โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร ซึ่งพบว่าหน่วยราชการจะไปปาดหน้าที่โรงงานทั้งหมด
ผู้ผลิตที่เคยส่งฟ้าทะลายโจร บอกกับร้านขายยาว่า ไม่มีสต็อกยาฟ้าทะลายโจรให้อย่างน้อย 2 เดือน ไม่รับออเดอร์ เพราะกำลังการผลิตต้องส่งให้หน่วยงานรัฐ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1PKE0JrH1hs6cfvthzvRlEijyx.jpg)
จุฬาฯ เปิดแนวทางใหม่ใช้ยาฟาร์วิพิราเวียร์รักษา
เฟซบุ๊ก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เผยแพร่แนวทางใหม่ในการใช้ฟาวิพิราเวียร์ สำหรับผู้ป่วย COVID-19 ว่า ยาฟาวิพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ ต่อมาพบว่า มีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสก่อโรค COVID-19
จากการเก็บข้อมูลในไทยพบว่า ยาฟาวิพิราเวียร์มีความปลอดภัย และช่วยลดความรุนแรงของ COVID-19 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขร ประกาศแนวทางการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ใหม่ ดังนี้
- ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ไม่ให้ยาต้านไวรัส เพราะส่วนมากหายเองได้ และอาจได้รับผลข้างเคียงจากยา
- ผู้ป่วยที่มีอาการน้อย ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วม แพทย์จะพิจารณาให้ยาโดยเร็ว แต่หากตรวจพบเชื้อเกิน 7 วัน อาจไม่จำเป็นต้องให้ยา เพราะผู้ป่วยน่าจะหายเองได้ โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน
- ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วม ให้ยานาน 5 วันหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับอาการ
- ผู้ป่วยที่มีปอดบวมหรือมีภาวะลดลงของระดับออกซิเจนในเลือด ให้ยาเป็นเวลา 5 – 10 วันขึ้นอยู่กับอาการ
นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า ปัจจุบันยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ผลิตโดยองค์กรเภสัชกรรม ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตและกระจายให้ผู้ป่วยได้ในเดือนส.ค.นี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไขคำตอบ! ไม่จ่าย "ยาฟาวิพิราเวียร์" ให้กับผู้ป่วยโควิดทุกคน