วันนี้ (28 ก.ค.2564) นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบเข้ามาหาไม้กฤษณาหรือไม้หอม ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 4 คนในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามมาตรการปรับแผนการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ
สำหรับคดีแรก จับกุมผู้ต้องหาคนไทย บริเวณป่าห้วยกะลา ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก หลังจากร่วมกับพวกอีก 1 คน ที่หลบหนีไปได้ เข้ามาลักลอบหาไม้กฤษณา ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา มีของกลางเป็นชิ้นไม้กฤษณา น้ำหนักประมาณ 12 กก. ขวาน และเลื่อยคันธนู เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก
สำหรับคดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชา 2 คนได้ที่บริเวณป่าเขาแหลม หลังจากนั้นจึงวางแผนขยายผล จนสามารถแกะรอยตามจับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาได้อีก 1 คน บริเวณป่าหลังวัดโต่งโต้น ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน ที่เข้ามาลักลอบหาไม้กฤษณาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของกลางประกอบด้วย ไม้กฤษณา น้ำหนักประมาณ 30 กก. เลื่อย ขวาน มีดพร้า เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ปรับยุทธการเชิงรุกลาดตระเวนป่า 365 วัน
นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการปรับแผนการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการกระทำผิดบนเขาใหญ่โดยให้หน่วยพิทักษ์ฯทุกหน่วย ชุดสายตรวจส่วนกลางทุกชุด ปรับแผนการออกตรวจลาดตระเวน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากขึ้น ให้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการเข้า-ออก ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาในการออกตรวจ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การปฏิบัติงาน จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ถึง 2 คดี ผู้ต้องหา 4 ราย ในเวลาไล่เลี่ยกัน
โดยก่อนหน้าที่จะมีการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ จำนวน 9 นาย ออกตรวจลาดตระเวน และสามารถแกะรอยผู้ต้องหา ซึ่งลักลอบเข้ามาหาไม้กฤษณาได้แล้วบางส่วน จึงได้ส่งต่อข้อมูลพร้อมหลักฐาน ให้กับชุดสายตรวจส่วนกลางชุดที่ 2 จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้
ขอเตือนไปยังผู้ที่คิดจะเข้ามากระทำผิดในเขาใหญ่ทุกรายว่าตอนนี้ เจ้าหน้าที่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันลาดตระเวนในพื้นที่ป่าตลอด 365 วัน หากพบการกระทำผิด จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทุกคน
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ไม้กฤษณาราคาพุ่ง 15,000–20,000 บาท ต่อกก.
ทั้งนี้ มาตรการลาดตระเวนอย่างเข้มข้น เป็นไปตามข้อสั่งการของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ได้มอบหมายนโยบายให้หน่วยงานภาคสนามทุกแห่ง ให้ถือเป็นภารกิจหลักที่สำคัญ ในการปฏิบัติงานคุ้มครองดูแลรักษาพื้นที่ป่าอนุรักษ์
สำหรับไม้กฤษณา หรือไม้หอม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ มีความสูงประมาณ 18-30 เมตร ลำต้นตรง เปลือกเรียบ มีสีเทาอมขาว เปลือกมีความหนาประมาณ 5-10 มม. เมื่อไม้กฤษณาเกิดโรคหรือมีแมลงมารบกวน จะสร้างสารที่ก่อให้เกิดกลิ่นหอมที่เรียกว่าน้ำมันกฤษณา สารที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมคือ Sesquiterpene ซึ่งไม้กฤษณา เกรด 1 มีน้ำมันสะสมอยู่มากทำให้มีสีดำ มีราคาแพงประมาณ กิโลกรัมละ 15,000 –20,000 บาท จึงเป็นที่ต้องการของผู้ลักลอบหาไม้กฤษณา
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช