วันนี้ (23 ก.พ.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" เกี่ยวกับความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนป้องกัน COVID-19 ว่า วัคซีนซิโนแวค 200,000 โดส ที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนการได้ภายใน 3 วัน
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนฟรีทุกคน ซึ่งกำหนดกลุ่มเป้าหมายและการบริหารจัดการไว้ก่อนแล้ว ขอให้รอฟังการชี้แจงจาก ศบค.ต่อไป ส่วนวัคซีนล็อต 2 จำนวน 800,000 โดส และล็อต 3 จำนวน 1 ล้านโดส จะเข้ามาในเดือนมีนาคมและเมษายน ส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับฉีดเข็มที่ 2 ให้ผู้ที่ได้รับโดสแรกไปแล้ว และในเดือนพฤษภาคม–มิถุนายน ไทยจะได้รับวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า จำนวน 26 ล้านโดส และจะตามมาอีก 35 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนของจอห์นสันแอนด์ จอห์นสัน ที่ได้ส่งเอกสารบางส่วนแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน วัคซีนของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ที่ได้ส่งตัวแทนมาพูดคุย แต่ยังไม่ได้ส่งเอกสาร
เราเปิดรับวัคซีนจากทุกบริษัท ที่ผ่านมาได้มีการประสานงานกันมาโดยตลอด บางส่วนอยู่ในขั้นตอนการขอเอกสาร บางส่วนอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งหมดเราไม่ปิดกั้น
สำหรับภาคเอกชนที่มีแนวคิดช่วยจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ผู้ที่ต้องการ อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตวัคซีนหรือผู้นำเข้าจะต้องขอจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนก่อน ซึ่งทาง อย.ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาช่วยในการตรวจสอบเพื่อความรวดเร็วในการขึ้นทะเบียน ซึ่งวัคซีนที่จะใช้ฉีดในประเทศไทยทุกล็อตจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. เพราะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก
เราตั้งใจวางมาตรการอย่างเป็นระบบ เพราะทั้งหมดเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยทุกคนในประเทศ
สำหรับการวางแผนได้จัดทำเป็นระบบและรัดกุม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและให้การฉีดวัคซีนได้ผลในการป้องกันการระบาดได้เต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ส่วนสำคัญเรื่องหนึ่งในกระบวนการ คือ การป้องกันตัวเองที่ผ่านมา ไทยประสบความสำเร็จในเรื่องนี้เป็นอย่างดี และขอให้ทุกคนยังคงสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม