นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนพาสปอร์ตหรือการรับผู้เดินทางที่มีการฉีดวัคซีน COVID-19 เข้าประเทศ แทนการกักตัว 14 วัน ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น เนื่องจากองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะรับรองว่าวัคซีน COVID-19 มีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ 100 %
แต่เชื่อว่าในอนาคตทั่วโลกจะนำวัคซีนพาสปอร์ตมาใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค คล้ายกับพาสปอร์ต เล่มเหลืองของผู้ที่เดินทางมาจากประเทศแอฟริกากับอเมริกาใต้ ที่ต้องแสดงทุกครั้งเมื่อเดินทางระหว่างประเทศว่าได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลืองแล้ว
นพ.โอภาส บอกด้วยว่า การนำวัคซีนพาสปอร์ตมาใช้เป็นกติกาสากล ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ ปี 2548 ซึ่งองค์การอนามัยโลกจะเป็นผู้กำหนดกติกาว่าจะนำวัคซีนพาสปอร์ตมาใช้ได้เมื่อใด แม้ขณะนี้หลายประเทศจะฉีดวัคซีน COVID-19 แล้ว แต่ก็ยังไม่มีประเทศใดนำแนวทางนี้มาใช้
ดังนั้นมาตรการกักตัว 14 วัน เมื่อต้องเดินทางเข้าประเทศ ยังเป็นมาตรการที่สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ไทย จะนำมาใช้ หากมีข้อมูลเพียงพอว่าวัคซีน COVID-19 มีประสิทธิภาพจริง ก็จะนำข้อมูลให้คณะกรรมการโรคติดต่อพิจารณากันอีกครั้ง