วันนี้ (29 ม.ค.2564) นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ COVID-19 โดยระบุว่า วันนี้ ไทยพบติดเชื้อเพิ่ม 802 คน เป็นติดเชื้อในประเทศ 781 คน จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 692 คน และจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 89 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 21 คน รวมผู้ป่วยสะสม 17,023 คน
สำหรับผู้ติดเชื้อสะสมการระบาดระลอกใหม่ (15 ธ.ค.63-28 ม.ค.64) จำนวน 12,786 คน หายป่วยเพิ่ม 109 คน สะสม 7,456 คน ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 5,314 คน ไม่เสียชีวิตเพิ่ม ผู้เสียชีวิตสะสม 16 คน หรือร้อยละ 0.13
ขณะที่จังหวัดที่พบผู้ป่วยสะสมมากสุดยังเป็น จ.สมุทรสาคร รองลงมาเป็น กรุงเทพฯ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ จันทบุรี และ นนทบุรี ขณะที่ในหลายจังหวัดเริ่มไม่พบผู้ป่วยรายใหม่
สำหรับข้อมูล การฉีดวัคซีนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานว่าในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มี 3 ประเทศที่ได้ฉีดวัคซีนแล้ว คือ สิงคโปร์ ฉีดร้อยละ 2 ของประชากร อินโดนีเซีย เริ่มฉีด 13 ม.ค. ฉีดร้อยละ 0.14 ของประชากร ขณะที่ เมียนมา ฉีดไปร้อยละ 0.13 ถือว่าน้อยมาก ดังนั้น ประเทศไทยก็ไม่ช้าเกินไป
ในหลายประเทศที่ฉีดในเวลาใกล้กัน หากฉีดก่อนก็เป็นข้อมูลให้ประเทศฉีดหลังได้ติดตามว่ามีอาการไม่พึงประสงค์อย่างไร จึงเป็นด้านดีที่เราได้เรียนรู้จากเขา ไม่ต้องกังวลว่าไทยจะช้าไป
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงความคืบหน้ากรณีดีเจมะตูม นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า จากงานเลี้ยง 2 งาน คือที่โรงแรม ผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วมี 29 คน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและต่ำจะมีการประมวลผลมารายงานวันพรุ่งนี้ (30ม.ค.)
อย่างไรก็ตาม การจัดงานเลี้ยงอยู่รวมกันเป็นเวลานานโอกาสแพร่เชื้อจะสูงมาก ทั้งนี้ยังมีคนที่ยังสังเกตอาการให้กักตัวอยู่จำนวนผู้ติดเชื้อก็อาจจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นได้
ไม่ควรวางใจว่าแข็งแรงอยู่แล้วรวมกลุ่มกันได้ ต้องระวัดระวังให้เต็มที่ไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์ของประเทศหรือพื้นที่เราจังหวัดเรา มันจะคลี่คลายไป แม้มีวัคซีนก็ยังต้องดูแลตัวเอง
เมื่อถามต่อว่ากรณีผู้ติดเชื้อในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 200 คน มีข้อเท็จจริงอย่างไร นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า กรณีนี้มีความเกี่ยวข้องกับร้านอาหาร 2 ร้าน ที่มีพนักงานติดเชื้อรวม 7 คน เป็นการติดเชื้อจากข้างนอก จำนวน 200 คนคือตัวเลขพนักงานที่เข้ามาตรวจไม่ใช่ผู้ที่เสี่ยงสูง