วันนี้ (17 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)ออกตรวจพื้นที่บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 11 เส้นทางวังทอง-สากเหล็ก หมู่ 7 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบกลุ่มควันไฟลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังบดบังทัศนวิสัยการจราจร เมื่อเดินทางเข้าไปตรวจสอบพบเป็นทุ่งนามีฟางข้าวถูกเผา และมีชายคนหนึ่งกำลังดับไฟตามคันนา
จากการสอบถามทราบว่า ชายคนดังกล่าวเป็นผู้จุดไฟเผานาข้าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และแจ้งให้ผู้เผาทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ฐานก่อให้เกิดควันไฟหรือเผาหญ้าริมถนนในระยะห่างจากทางเดินรถไม่น้อยกว่า 500 เมตร และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังทอง ดำเนินคดี
ตำรวจยังขอความร่วมมือจากประชาชนและเกษตรกรให้งดเว้นการเผาทุกชนิด เนื่องจากประเทศไทยกำลังประสบปัญหาฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หากพบผู้ฝ่าฝืนจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
สำหรับการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามที่ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดแต่ละกองกำกับลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 และสร้างจิตสำนึกให้ชาวบ้านตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเผา
ชาวนาจุดไฟเผาตอซังข้าวถูกไฟไหม้บาดเจ็บ
ชาวนาอายุ 76 ปีใน ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ตามร่างกาย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบ้านนา ภายหลังทำการรักษาแล้วเสร็จแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
ผู้บาดเจ็บเล่าว่า เช่าที่ทำนา 10 ไร่ ห่างจากบ้านพักประมาณ 1 กิโลเมตร หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้วจะปลูกถั่วและผักผสมผสานเพื่อหารายได้มาจุลเจือครอบครัว โดยก่อนเตรียมแปลงได้จุดไฟเผาตอซังข้าว ระหว่างนั้นเกิดมีลมพัดแรง ควันไฟหวนเข้าจมูกหายใจไม่ออกจนทำให้หน้ามืดและเป็นลม ก่อนที่หลานสาวจะเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งรถน้ำ อบต.เขาเพิ่ม มาฉีดน้ำสกัดไฟไม่ให้ลุกลาม