วันนี้ (17 ธ.ค.2563) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงปล่อยฝุ่น PM2.5 ในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 5,480 โรงงาน และใช้รถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 จุด คือ จุดที่ 1 เขตบางแค จุดที่ 2 บริเวณบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด เขตสาธร และจุดที่ 3 บริเวณฝ่ายโรงงานและอะไหล่ กฟผ. เขตหนองจอก พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน
นายสุริยะ ระบุอีกว่า ในระยะสั้นได้วางมาตรการบรรเทาฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วน ได้แก่ ขอความร่วมมือโรงงานลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองลง ควบคุมการระบายมลพิษอากาศให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน และขอความร่วมมือโรงงานติดตั้งอุปกรณ์ ตรวจสอบคุณภาพอากาศ พร้อมกับเฝ้าระวังโรงงานที่มีเคยมีปัญหาร้องเรียนซ้ำซากด้านฝุ่นละออง
ด้าน สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ยืนยันว่า ยังไม่พบโรงงานในนิคมฯ ปล่อยค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน โดยเชื่อว่าปัญหาฝุ่นส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากโรงงาน เพราะทุกโรงงานจะต้องปฎิบัติตามรายงงานผลกระทบ อีไอเอ ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างและจนก่อสร้างเสร็จ แต่ กนอ. ได้กำชับเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้องเรียนภายหลัง
ขณะที่สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุ ผลการสำรวจในปี 2562 จะพบว่า ค่าฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากโรงงานไม่ถึงร้อยละ 5 จากจำนวนโรงงานทั้งหมด ถือว่าน้อยมาก ซึ่งได้มีการปรับปรุงโรงงานตามกฎหมาย และเพื่อป้องกันปัญหา ได้ขอความร่วมมือให้สมาชิก ควบคุมโรงงานให้มีมาตรฐานและปรับปรุงโรงงานไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ยังร่วมกับ กนอ. ผลักดันให้โรงงานปรับปรุงเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ และเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ล่าสุด สามารถผลักดันโรงงานสีเขียวแล้ว 253 โรงงาน แบ่งเป็นในนิคม 172 โรงงาน และนอกนิคม 81 โรงงานส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งต้องการให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนโรงงานขนาดเล็กเพิ่มขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายปรับปรุงโรงงาน ลดหย่อนภาษี เพราะปรับปรุงโรงงานเชิงนิเวศใช้เงินลงทุนสูง เช่น ค่าที่ปรึกษา 30,000 -50,000 บาทต่อโรงงาน ยังไม่นับรวมค่าปรับปรุงโรงงาน ระบบอากาศที่ต้องใช้เงินลงทุนสุงหลักแสนบาทขึ้นไป
สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เช้าวันนี้ เว็บไซต์ Air4Thai รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เวลา 07.00 น. โดยพบว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยตรวจพบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ระหว่าง 15 - 74 มคก.ต่อ ลบ.ม.เกินมาตรฐาน 12 พื้นที่ โดยบริเวณ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดที่ 70 มคก.ต่อ ลบ.ม. อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ
