วันนี้ (31 ส.ค.2563) ทีมข่าวสถานีประชาชน ลงพื้นที่พบกับผู้ค้าตลาดนัดจุตจักร กว่า 100 คน ร้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอให้ยกเลิกประกาศของสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร กรณีแจ้งเรื่องการยกเลิกการอนุญาตทำการค้านอกแผงค้ากึ่งถาวร บริเวณริมรางระบายน้ำ ภายในตลาดนัด โดยอ้างว่าจะปรับภูมิทัศน์
หนึ่งในผู้ค้ากล่าวว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่ได้ค้าขายบริเวณนี้ มากว่า 10-30 ปี มีสัญญาเช่า และจ่ายค่าเช่ามาโดยตลอด ซึ่งร้านค้าที่ใช้พื้นที่คร่อมริมรางระบายน้ำด้านใน จ่ายค่าเช่าร้านละ 500 บาทต่อเดือน และร้านค้าที่ใช้พื้นที่คร่อมรางระบายน้ำด้านนอก จ่ายอัตราร้านละ1,200 ต่อเดือน
แต่หลังจากผู้ค้ากว่า 700 แผง ได้รับจดหมายขอยกเลิกการใช้พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าผู้ค้าทำผิดหลักเกณฑ์ ตั้งวางพื้นที่เกินจากที่อนุญาต-การนำร้านไปเช่าช่วงในราคาแพง และการทำที่ตั้งวางสินค้าลักษณะถาวรไม่สามารถยกได้
ผู้ค้ากล่าวต่อว่า ได้ปฎิบัติตามกฎระเบียบ ในการใช้พื้นที่อย่างเคร่งครัดเช่นพื้นที่วางสินค้าส่วนใหญ่ทำเป็นไม้กระดาน สามารถยกขึ้นได้ ไม่ให้เกิดการกีดขวาง แต่มีเพียงบางร้านที่ผิดระเบียบโดยเทปูนเป็นพื้นถาวร
ประเด็นนี้ผู้ค้าส่วนใหญ่ เห็นว่าทำไมกรุงเทพมหานคร ไม่แจ้งเตือนร้านค้าที่ผิดระเบียบดังกล่าวให้แก้ไขก่อน แต่กลับเหมารวม ทำให้คนที่ทำถูกระเบียบได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ที่ผ่านมาไม่เคยเปิดประชุมร่วมเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ ก่อนที่จะออกจดหมายแจ้งผู้ค้า เพราะขณะนี้ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก
เพราะก่อนหน้านี้ผู้ค้าต่างเจอวิกฤต COVID-19 ถูกปิดตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคม และมาเปิดขายอีกครั้งเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม แต่ลูกค้าลดลงอย่างมาก ต่อมาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลับได้รับจดหมายยกเลิกการใช้พื้นที่ ให้เวลารื้อย้ายภายใน 45 วัน ซึ่งครบกำหนดในวันนี้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มารับเรื่องและขอตัวแทนผู้ค้า10 คน เพื่อเข้าร่วมประชุมหาทางออกของเรื่องนี้ โดยทางกรุงเทพมหานครได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานตลาดจตุจักร ผู้ดูแลพื้นที่ตลาดมาร่วมประชุมด้วย คาดว่าจะมีทางออกของปัญหาดังกล่าวร่วมกัน โดยข้อสรุปหลังการประชุม ทางกรุงเทพมหานครมีข้อสรุปดังนี้
1. ร้านที่ผิดต้องดำเนินการแก้ไขต่อไปตามประกาศ
2. เรื่องการใช้พื้นที่ต้องรอผู้บริหารพิจารณาอีกครั้ง นั่นหมายความว่ายังให้ค้าขายต่อไปก่อน