วันนี้ (18 ส.ค.2563) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า จากปัญหาลักลอบขุดไม้เทียนทะเล ในพื้นที่ป่าชายเลนในธรรมชาติ เพื่อนำไปเป็นต้นบอนไซ มีความต้องการสูงและราคาแพงมากทำให้พบลักลอบขุดออกจากพื้นที่ แต่เนื่องจากไม้เทียนทะเล ไม่ได้อยู่ในบัญชีไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 ทำให้ไม้เทียนทะเลไม่ได้มีกฎหมายคุ้มครอง ทช.ดำเนินการได้เพียงแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก ทำลายป่าเท่านั้นทั้งที่เป็นไม้ที่มีคุณค่าต่อระบบนิเวศ
นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มอบนโยบายให้ออกคำสั่ง และมาตรการคุ้มครองไม้เทียนทะเล ทช.จึงทำหนังสือขอให้กรมป่าไม้ ได้พิจารณาเสนอไม้เทียนทะเลที่ขึ้นในป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ในบัญชีไม้หวงห้าม ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน กว่าจะผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้
ดังนั้นเพื่อเป็นการระงับการกระทำที่ทำให้ไม้ชนิดนี้ ที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้วในธรรมชาติไม่ให้ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ทช.จึงออกคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 977/2563 เรื่องมาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล เพื่อเป็นการกำหนดมาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล ไม่ให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการลักลอบขุดล้อมไม้เทียนทะเล เพื่อการค้าไม้บอนไซ และนำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนอื่นใด
โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.นี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ใดพบเห็นผู้กระทำความผิดขอให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ในทุกช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้เร่งรัดดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด