วันนี้ (8 ส.ค.2563) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงานป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีรายงานข่าวจากรัฐสภา ในที่ประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่มี น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน
ซึ่งมีวาระพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของ 2 กรม คือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล งบประมาณ 1,276,572,100 บาท และ กรมทรัพยากรน้ำ งบประมาณ 3,772,802,200 บาท รวมถึง กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 13,103,923,100 บาท
ในที่ประชุมนายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล เปิดเผยข้อมูลว่า มีอนุกรรมาธิการฯ บางคน โทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า บางกรมฯ ถูกอนุกรรมาธิการฯ นี้ เรียกถึง 10 ล้านบาท แต่ไม่กล้าเปิดเผย
กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวดังกล่าวนั้น จากที่ป.ป.ช. มีการตรวจสอบข่าวทุจริตประพฤติมิชอบเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อมีข่าวลักษณะนี้เบื้องต้น ถ้าถามว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกขึ้นมาเป็นเหตุอันควรสงสัยได้เลยหรือไม่ ก็คงยังมิได้ เพราะเพียงปรากฏเป็นข่าว แต่จะต้องมีการเข้าไปตรวจสอบก่อน เช่น อาจจะต้องเชิญ นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล มาชี้แจง เนื่องจากเขาเป็นคนพูด เพื่อสอบถามว่า มีการเรียกรับเงินจริงหรือไม่
ถ้ามีการเรียกรับจริงจากคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือกรรมาธิการ ก็อาจนำเสนอต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ว่า มีข้อมูลเพียงพอ เพื่อจะหยิบยกเหตุอันควรสงสัยขึ้นได้ เพราะหากมีความ ปรากฏต่อคณะกรรมการว่ามีการทุจริตก็สามารถยกขึ้นมาได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้อง
โฆษกป.ป.ช. กล่าวว่า เบื้องต้น คือต้องเชิญอธิบดีกรมน้ำบาดาลมาให้ข้อมูลก่อน แต่จะต้องมีการนำเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ คณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อทราบก่อนว่า มีข่าวออกมาเช่นนี้ เป็นการใช้อำนาจตามกฏหมาย เพราะอยู่ๆ จะไปเชิญคนนั้นคนนี้มาโดยที่ไม่มีเหตุไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เหตุปรากฏเป็นข่าว เราจึงต้องตรวจสอบก่อนว่า ที่ข่าวลงมานั้นมีการพูดเช่นนั้นจริงหรือไม่ มีเหตุการณ์เช่นนั้นจริงหรือไม่
นายนิวัติไชยกล่าวว่า ทางสำนักการข่าวฯ ของป.ป.ช. จะเป็นผู้ประมวลข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ซึ่งเมื่อถูกหยิบยกเลขาฯ ก็จะมีอำนาจในการมอบหมายเจ้าหน้าที่ให้ลงไปตรวจสอบข้อมูล จากนั้นรายงานให้คณะกรรมการป.ป.ช.ทราบ
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการป.ป.ช.จะมีมติโดยตรงว่า จากเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว ก็อาจให้เชิญทางนายศักดามาสอบถามข้อเท็จจริงได้ โดยส่งเรื่องไปยังสำนักที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งถ้าอนุกรรมาธิการฯ งบฯ อยู่ในข่ายเป็นข้าราชการการเมือง ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของ สำนักไต่สวนทุจริตภาคการเมืองและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
เชื่อว่าไม่ช้า ขอให้มีการตรวจสอบข่าวเสียก่อน เพราะเบื้องต้นทราบจากที่สื่อมวลชนนำเสนอเท่านั้น ขอให้สำนักการข่าวฯได้รวบรวมหากทันก็นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ในวันอังคารที่ 11 ส.ค.นี้เลย