วันนี้(19 มิ.ย.2563) จากกรณีในทวิตเตอร์ “Red Skull” ได้เผยภายระเบียบการของโรงเรียนชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์ ซึ่งในภาพดังกล่าว ได้มีการระบุถึง ความผิดระดับร้ายแรง ที่คณะกรรมการระดับโรงเรียน จะพิจารณา “ภาคทัณฑ์”
โดย Red Skull ระบุข้อความว่า ..ทำแบบฟอร์มให้นักเรียนกรอกรหัสโซเชียล วันนี้ก็มาระเบียบโรงเรียนที่เห็นว่าการเบี่ยงเบนทางเพศคือ “ความผิดระดับร้ายแรง” ท๊อปฟอร์มจริงๆวงการศึกษาไทย #โรงเรียนชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์ #LGBTQ
เมื่อวานก็ครูโง่ๆที่ทำแบบฟอร์มให้นักเรียนกรอกรหัสโซเชี่ยล วันนี้ก็มาระเบียบโรงเรียนที่เห็นว่าการเบี่ยงเบนทางเพศคือ “ความผิดระดับร้ายแรง” ท๊อปฟอร์มจริงๆวงการศึกษาไทย #โรงเรียนชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์ #LGBTQ pic.twitter.com/Otjf28A0f9
— Red Skull (@RedSkullxxx) June 16, 2020
หลังจากมีข้อมูลเผยแพร่ออกมา ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เพราะส่วนใหญ่หากจะมีการภาคทัณฑ์นักเรียนจะเกี่ยวกับเรื่องที่เข้าใจได้ เช่น เล่นการพนัน ทะเลาะวิวาท ก้าวร้าว เสพยาเสพติด วาจาหยาบคาย ลักขโมย ทุจริต ทำลายทรัพย์สินโรงเรียน เป็นต้น
ระบุโรงเรียนขีดฆ่าคำเบี่ยงเบนออก-รอคำชี้แจง
ล่าสุด เฟซบุ๊ก SirisakPosh ChaitedSpice โพสต์ข้อความระบุว่า ทางโรงเรียนชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์ ได้จัดการเบื้องต้นกับแบบประเมินเหยียดเพศ โดยการช่วยกันใช้ปากกาเมจิกขีดฆ่า คำว่า #เบี่ยงเบนทางเพศ ออกทุกเล่ม ซึ่งยังไม่มีแถลงการณ์หรือประกาศออกมาใดๆ (ซึ่งการขีดฆ่า ไม่เท่ากับการแก้ไขระเบียบ และการปรับเปลี่ยนทัศนคติ) ถึงแม้จะเป็นการจัดการที่ปลายเหตุ แต่ก็ถือว่า โรงเรียนนี้พร้อมที่จะรับฟังปัญหาของนักเรียนและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม
จากแบบประเมินนี้สะท้อนหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับเชิงโครงสร้างทางสังคมไทย เกี่ยวกับเรื่องเพศ ทั้งเรื่องความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเพศที่เชื่อว่าโลกนี้มีแค่ 2 เพศ อวัยวะเพศเป็นตัวชี้วัดคุณค่าความเป็นคนมากกว่าที่จะมองความเป็นตัวตนที่แท้จริงของแต่ละบุคคล การพยายามจัดการให้ทุกคนประพฤติตนให้อยู่ในกรอบที่สังคมคาดหวังแต่ดันใช้เรื่องเพศมาเป็นตัวตัดสิน ความเข้าใจในความหลากหลายและเรื่องสิทธิมนุษยชน
แนวคิดของผู้บริหารโรงเรียนเกี่ยวกับความเข้าใจในความละเอียดอ่อนเรื่องเพศ ที่การสะท้อนภาพผ่านแบบประเมินนี้ ช่างย้อนแย้งกับสิ่งที่สังคมไทยและทั่วโลก ต่างให้สมญานามกับประเทศไทยว่าเป็นดินแดนสวรรค์ของคนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTIQAnsParadise
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือมองว่า แบบประเมินนี้โรงเรียนนี้ เป็นเพียงแค่กรณีส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาไทยที่ล้าหลัง ยังมุ่งเน้นที่การเรียนต้องเลิศ ความประพฤติต้องอยู่ในกรอบที่สังคมวางใว้ถึงจะถูกมองว่าเป็นคนดี มากกว่าที่จะ มองไปถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน และการเคารพคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สิ่งที่ต้องทวงถามคือ กระทรวงศึกษาธิการ ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร กระทรวงศึกษาธิการ ควรมีหน้าที่ในการ สอดส่องดูแล จัดการมีระบบ ที่สร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมหล้ำให้เกิดขึ้นกับทุก โรงเรียน ทุกสถาบัน ทั้งเรื่องคุณภาพการศึกษา มาตรฐานการศึกษา โอกาสการเข้าถึงการศึกษา อุป กรณ์เครื่องมือ หลักสูตร เนื้อหาที่ทันสมัยเข้าถึงทุกคนทุกสถาบัน ความปลอดภัยในสถาบันการศึกษา และเรื่องการเคารพในความละเอียดอ่อนของทุกคน ทุกเพศ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องของระบบโครงสร้างใหญ่ทีรัฐบาลต้องรับชอบไม่ใช่แค่ให้ ผู้เสียหายมาร้องเรียนแล้วจัดการเป็นรายกรณีไป แต่การจัดการต้องเป็นไปในทิศทางและมาตรฐานเดียวกัน
สุดท้ายขอขอบ คุณน้องต้นเรื่องที่กล้าออกมาพิทักษ์สิทธิของตนเอง และทุกคน สื่อมวลชนที่ช่วยกันออกมาแสดงความคิดเห็น ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงในครั้งนี้ ที่สำคัญขอบคุณ นักเรียน บุคลากร ผู้บริหาร โรงเรียนนี้ ที่รับฟังปัญหาและ นำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อร่วมกันเปลี่ยนแปลงสังคมและสร้างความเท่าเทียมบนฐานคิดในเรื่องสิทธิมนุษยชนต่อไป ศิริศักดิ์ ไชยเทศ นักกิจกรรมอิสระด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อคนที่มีความหลากหลายทางเพศและพนักงานบริการ #HumanRights #GenderEquality #EqualRightsForAll #StopDiscrimination #LGBTIQANs+ #Equality #StopStigma