เตรียมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์ "แม่ปุ๊ก" คดีวางยาเด็กเอาเงินบริจาค

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกันประชุมความคืบหน้าของคดี ซึ่งได้สอบสวนพยานแวดล้อมไปแล้วจำนวนหนึ่ง เหลือเพียงการรอผลตรวจดีเอ็นเอ พิสูจน์ว่าเด็กเป็นลูกจริงหรือไม่ และสารเคมีต้องสงสัยที่พบในบ้านพักว่าจะเชื่อมโยงกับสารเคมีที่ตรวจพบในร่างกายของเด็กหรือไม่ ขณะที่การสืบสวนของตำรวจยังไม่พบผู้ที่เกี่ยวข้องกระทำผิดร่วมด้วย แต่พบว่าผู้ต้องหาเตรียมที่จะรับเด็กอีกคนมาอุปการะก่อนที่จะถูกจับ

อ้างเด็ก "เสียชีวิต-ป่วย" เป็นความผิดหมอ

การให้ปากคำของ แม่ปุ๊ก ยอมรับเพียงข้อหาฉ้อโกงประชาชนในการรับสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วนเรื่องที่ทำให้เด็กเสียชีวิต 1 คน และอีก 1 คนป่วยนั้น เจ้าตัวระบุว่า เป็นความผิดของแพทย์ในการรักษา จากการสอบสวน ทำให้ทราบว่ามีการทำร้ายร่างกายเด็ก เพื่อหวังให้คนสงสารและโอนเงินบริจาค ตำรวจจึงพิจารณาแจ้งข้อหาฐานค้ามนุษย์กับ แม่ปุ๊ก ด้วย สำหรับเงินบริจาคกว่า 20 ล้านบาท ถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมด ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา ส่วนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้ อยู่ในความดูและของเจ้าหน้าที่

เตือน "โพสต์ภาพเด็ก" ขอรับบริจาคผิด กม.

นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า การนำภาพเด็กหรือเยาวชนไปโพสต์ข้อความ เพื่อขอรับบริจาคเงิน ไม่สามารถทำได้ เพราะจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ แม้ที่ผ่านมาเหตุการณ์แบบนี้จะยังไม่เกิดขึ้น แต่หลังจากนี้ ทางกรมฯ ก็เตรียมตรวจสอบมากขึ้น

คนไทยบริจาคการกุศลปีละ 130,000 ล้าน

ผลสำรวจของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำรวจครัวเรือนที่มีรายจ่ายเพื่อการกุศลในช่วงปี 2552 - 2560 พบว่ามีการบริจาคเงินเพื่อการกุศลมากกว่า 130,000 ล้านบาทต่อปี หรือร้อยละ 96 โดยคนในต่างจังหวัดบริจาคเงินมากกว่าคนในกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่เป็นคนในภาคเกษตรกรรม และครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุ รวมทั้งครอบครัวที่มีหัวหน้าครอบครัวการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี

ผู้เสียหายโผล่อ้างถูกแม่ปุ๊กหลอกซื้อสินค้า

ส่วนผู้เสียหายคนหนึ่งใน จ.อุดรธานี อ้างว่าถูก แม่ปุ๊ก หลอกให้ซื้อมิเตอร์วัดไข้ แต่กลับได้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือแทน ทั้งที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อนำเงินไปดูแลรักษาลูกที่ป่วย ซึ่งได้นำหลักฐานเป็นข้อความการสนทนาในแอปพลิเคชันไลน์ และเจลแอลกอฮอล์มาแสดงด้วย

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จัก แม่ปุ๊ก เพราะรุ่นน้องแนะนำให้รู้จักในกลุ่มเฟซบุ๊กขายของออนไลน์ โดยแม่ปุ๊กว่าขายสินค้าหาเงินเพื่อรักษาลูกที่ป่วย แต่ไม่สนิทกัน และในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อเดือน ก.พ.2563 ได้สั่งซื้อมิเตอร์วัดไข้ทั้งหมด 83 เครื่อง เป็นเงินกว่า 120,000 บาท แต่กลับได้สินค้าเป็นเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแทน จึงได้ทักท้วง แต่แม่ปุ๊กกลับบ่ายเบี่ยง และไม่ยอมส่งสินค้าให้จนกระทั่งทราบข่าวถูกจับกุม

ผู้เสียหาย ยังบอกด้วยว่า อยากได้เงินคืนเพื่อจะได้นำไปเงินคืนกับเพื่อนๆ ที่เขาฝากซื้อของ และอยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ไม่พบ "นางเอม" แม่เด็กเสียชีวิตที่พิจิตร 

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณหลังโรงสีข้าวเก่าในพื้นที่ ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร บ้านของนางเอม แม่ตัวจริงของเด็กที่เสียชีวิตในคดีวางยาเด็ก ซึ่งเคยพักอาศัย โดยการเข้าพูดคุยไม่พบตัวของนางเอม และพ่อและแม่ก็ได้ออกไปทำงานกันหมด เหลือเพียงญาติที่ขอสงวนการเข้าถ่ายพื้นที่ในบ้าน แต่ได้ให้ข้อมูลว่า นางเอม มีลูกชายคนเดียว อายุ 5 ขวบ ที่ฝากให้ตากับยายที่เลี้ยงอยู่ในบ้านที่นี่ และนางเอมจะกลับมาที่บ้านนานๆ ครั้ง

ขณะที่นางประกอบพร ธาดาวิทย์ กำนัน ต.บางคลาน ระบุว่า นางเอมตอนเรียนอยู่กับลูกชาย นิสัยดีมีจิตใจดี โดยทราบข่าวว่านางเอมได้เข้าเรียนต่อทางการแพทย์ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งฐานะทางบ้านพ่อและแม่ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก็พอกินพอใช้ และจากการตรวจสอบในหมู่บ้าน ทราบว่านางเอมมีบุตรชายคนเดียวและไม่มีเคยเห็นว่าครอบครัวนี้มีเด็กมาเลี้ยงเพิ่ม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ได้ป่วยจากโรค! แพทย์ มธ.สรุปเด็ก 2 คนถูกวางยาให้ป่วย 

รอผล DNA " อิ่มบุญ" ปมวางยา-แนะเช็กก่อนโอนเงินบริจาค

รอผลตรวจ "สารเคมี" โยงปมวางยาเด็กรับเงินบริจาค 15 ล้านบาท

แม่วัย 29 ปีรับสารภาพฉ้อโกง แต่ปฏิเสธทำร้ายลูก