วันนี้ (2 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 ในสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) เพิ่มถึง 917 คน สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5,138 คน และคาดกันว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์อาจมีชาวอเมริกันเสียชีวิต 100,000-240,000 คน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสม 216,515 คน
ขณะที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ เตือนว่าสหรัฐฯ กำลังเผชิญรูปแบบการดำเนินโรคที่คล้ายกับอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันในประเด็นที่จะให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีแพทย์ใหญ่เตือนว่าการสวมหน้ากากอนามัยอาจไม่ช่วยป้องกันสาธารณชนจากการติดเชื้อและยังเพิ่มความเสี่ยงหากใช้ไม่ถูกวิธี
ล่าสุดหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานโดยอ้างบันทึกภายในของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ที่ระบุว่าแม้แต่การสวมหน้ากากผ้าธรรมดาก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการแพร่เชื้อได้
ด้านนายเทดรอส อะดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก แสดงความวิตกกังวลถึงสถานการณ์การระบาดทั่วโลกอย่างรวดเร็วและลุกลามเข้าถึง 205 ประเทศและดินแดน โดยในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นใกล้ถึงระดับทวีคูณ ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และในอีกไม่กี่วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 1 ล้านคน และเสียชีวิต 50,000 คน