วันนี้(31มี.ค.63)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีคำสั่งจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 แล้วนั้น ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้จัดจุดเฝ้าระวังและอำนวยความสะดวกร่วมให้กับประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ในพื้นที่ กทม. และพื้นที่ต่างจังหวัด รวมทั้งสิ้น 409 จุด ทั่วประเทศ เพื่อดูแลการเดินทางข้ามจังหวัด การจัดระเบียบการเดินทาง การจราจร การเฝ้าระวังหรือสังเกตอาการผู้เดินทางและพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด – 19
โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพเรือ ได้สนับสนุนภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) โดยมอบหมายให้หน่วยในความรับผิดชอบดำเนินการตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รับผิดชอบในการจัดชุดสนับสนุนการตรวจคัดกรองผู้โดยสารประจำท่าเรือต่าง ๆ การตรวจเรือต่างประเทศ และการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร ,ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จัดชุดสนับสนุนการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
กองกำลังแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน จัดกำลังพลเข้าประจำพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ระยอง จำนวน 5 จุด,จ.จันทบุรี จำนวน 3 จุด, จ.ตราด จำนวน 4 จุด และ จ.ภูเก็ต จำนวน 2 จุด รวมทั้งสิ้น27 จุด
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพเรือ จะยังคงสนับสนุนภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ในการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ผู้โดยสารประจำท่าเรือต่าง ๆ และตั้งจุดตรวจควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 รวมทั้งจัดชุดลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ล่อแหลมเพื่อจัดระเบียบและลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
สำหรับพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่ได้มีการประกาศปิดช่องทางเข้า – ออกพื้นที่จังหวัด ทั้งช่องทางบก และช่องทางน้ำ ยกเว้น ช่องทางเดินอากาศ ตั้งแต่เวลา วันที่ 30 มี.ค.2563 ถึงวันที่ 30 เม.ย.2563 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงนั้น ขอความร่วมมือประชาชนที่เดินทางเข้า จ.ภูเก็ต ผ่านช่องทางเดินอากาศ ทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิด
พร้อมทั้งขอให้ประชาชนโปรดให้ความร่วมมือในการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) จะดำเนินมาตรการเท่าที่มีความจำเป็นเท่านั้น เพื่อให้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนให้น้อยที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มขีดความสามารถเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทย และร่วมก้าวข้ามผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน